09.00 INDEX จับตาแคนดิเดต นายกรัฐมนตรี “พลังประชารัฐ” อาจมี “สองคน”
ภายในการประนอมเรื่องเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทิ้ง “ปม” ทางการเมืองไว้
เป็นปมว่าจะเสนอเพียงชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ ว่ามีชื่อของแคนดิเดตอื่นอีก
นี่คือปมใหม่อันต่างจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
หากจำกันได้ในห้วงแห่งการเสนอชื่อมีปัญหาว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปพร้อมกับชื่อของ นายอุตตม สาวนายน ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคในขณะนั้นหรือไม่
ส่งผลให้เกิดการต่อรองและในที่สุดทางด้านของ นายอุตตม สาวนายน ก็ถอนหัวและคงเหลือเพียงชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา ผู้เดียว
คราวนี้แม้ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะถอนตัวแต่ก็ทิ้ง “ปม”
เป็นปมที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยืนยันว่าเป็นเรื่องของภาย ในพรรคพลังประชารัฐ
นี่คือปมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องครุ่นคิดอย่างหนัก
มีความเชื่อตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตัดสินใจอาศัยอำนาจตามมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เมื่อวันที่ 8 กันยายนแล้วว่า
แต่ละก้าวจากนั้นเป็นต้นมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ การรุกเข้าไปยึดพรรคพลังประชารัฐ
กระนั้น การที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ยอมปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากเลขาธิการพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จากเหรัญญิกพรรค คือเงื่อนแง่งสำคัญ
อีกทั้งยังได้แต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสเดิน ณ อยุธยา เข้ามาเป็นประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคอีก เท่ากับได้สร้างป้อมค่าย
เป้าหมายก็เพื่อสกัดการรุกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ทุกปฏิบัติการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็คือ การตอกย้ำและ ยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมว่า งานในพรรคพลังประชารัฐเป็นเรื่องของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
นั่นเท่ากับเป็นการปิดประตู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นเชิง
ทุกการอันเกี่ยวกับการเมือง การเลือกตั้งหากเป็นของพรรคพลังประชารัฐย่อมเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนเดินตามสถานเดียว
