นักวิชาการ ชี้ อย่าลดทอน เรียกชุมนุมแยกดินแดงว่า “สมรภูมิ” เอื้อรัฐใช้กำลังรุนแรงปราบ
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล นักวิชาการคณะนิติศาสตร์ มช. เขียนบทความแสดงความเห็นกรณีการจับกุมผู้ชุมนุมพื้นทีดินแดง โดย ระบุว่า ดินแดงมิใช่พื้นที่ “สมรภูมิ”
ไม่ว่าจะด้วยความตระหนักรู้หรือไม่ก็ตาม สื่อมวลชนหลายแห่งได้เรียกบริเวณสามเหลี่ยมดินแดงว่าเป็นเขต “สมรภูมิดินแดง”
ปฏิเสธไม่ได้ว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นจุดที่มีการชุมนุมและเรียกร้องให้ พล.อ. ประยุทธ์ ออกไปจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีการตอบโต้กับปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเข้มข้น แตกต่างไปจากการชุมนุมที่เกิดขึ้นในหลายแห่ง และด้วยการตอบโต้ที่เกิดขึ้นหลายรูปแบบทำให้พื้นที่แห่งนี้ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่สมรภูมิ
“สมรภูมิ” มีความหมายอย่างชัดเจนว่าหมายถึงสนามรบ เฉพาะอย่างยิ่งการทำต่อสู้ระหว่างกองกำลังฝ่ายต่าง ๆ ในการเข้าห้ำหั่นกันด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชนิด
แต่ดินแดงไม่ใช่สนามรบ มันเป็นเพียงพื้นที่ที่ผู้คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาใช้เป็นสถานที่สำหรับการแสดงออกถึงความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล อาจไม่ใช่ด้วยการสวดภาวนา ไม่ใช่การแผ่เมตตา ไม่มีเวทีหรือการปราศรัยแบบการชุมนุมเฉกเช่นการชุมนุมอื่น แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นสามัญชนทั่วไปที่มิได้ผ่านการฝึกฝนการใช้อาวุธดังเช่นกองกำลังของเจ้าหน้าที่รัฐ เครื่องไม้เครื่องมือที่นำมาใช้ก็ล้วนแต่ห่างไกลจากอาวุธของฝ่ายรัฐที่มีประสิทธิภาพอย่างสูง (และราคาแพงลิบลิ่ว)
ยิ่งพิจารณาจากผู้ถูกจับกุมและดำเนินคดี นับวันก็ยิ่งเห็นกลุ่มคนที่มีอายุน้อยเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งแจ่มชัดว่าพวกเขาเหล่านั้นมิใช่ผู้ผ่านการฝึกสำหรับการสู้รบอย่างจริงจัง จะมีก็เพียงประสบการณ์จากชีวิตประจำวันที่นำมาปรับใช้กับอำนาจรัฐ
การเรียกขานพื้นที่ดินแดงว่าเป็น “สมรภูมิ” ในด้านหนึ่งจึงให้ความชอบธรรมกับรัฐในการใช้กำลังเข้าปราบปรามด้วยอาวุธนานาชนิดและวิธีการที่ไม่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ซึ่งในภาวะปกติการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐก็พร้อมจะฉ้อฉลได้อยู่เสมอ ยิ่งกลายเป็นสนามรบก็ยิ่งสามารถใช้อำนาจได้อย่างเมามัน
การทำให้การเคลื่อนไหวของผู้คนและพื้นที่ในการตอบโต้กลายเป็นสนามรบก็คือ การสร้างความชอบธรรมต่อการลิดรอนเอาสิทธิเสรีภาพของประชาชนให้กับอำนาจรัฐ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปก็อาจเป็นไปได้ที่ดินแดงจะกลายสภาพไปสู่การเป็น “killing zone”
ขอยืนยันว่าดินแดงไม่ใช่พื้นที่ “สมรภูมิ”
