09.00 INDEX เส้นทาง ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในมือ แกร่ง พลังประชารัฐ
เหมือนกับการแต่งตั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเท่ากับเป็น “ไฟเขียว”
เปิดหนทางการรุกคืบเข้ามาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายในพรรคพลังประชารัฐ
ราวกับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค คือ “ตัวแทน” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ราวกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน สะท้อนการเลือกข้างของ “กลุ่มสามมิตร”
ทั้งๆที่ในความเป็นจริงทุกการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์ สุวรรณ ล้วนดำเนินไปภายใต้ความเห็นชอบอย่างเต็มเปี่ยมของ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์
และที่ประทับตราอย่างมิอาจปฏิเสธได้ยังเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รวมทั้ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์
ดัชนีชี้วัดหนึ่งก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิใช่คนตัดสินใจ
คนตัดสินใจยังเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่แปรเปลี่ยน
สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แน่นอนมีเพียงการยอมรับโดยพื้นฐานใน “เบื้องต้น” ว่าดำรงเป็น “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีเท่านั้น
แต่ที่มั่นใจว่าจะเป็นเพียง “หนึ่งเดียว” เหมือนกับในสถานการณ์ การเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ก็ไม่น่าจะใช่อีกแล้ว
ในเมื่อไม่ว่า “นิด้าโพล” ที่ออกมาจากเดือนมิถุนายนและเดือนกันยายน คะแนนและความนิยมทรุดต่ำลงเป็นลำดับ กระหน่ำซ้ำมาอีกผ่าน “อีสานโพล”
จึงมีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจักต้องหา “แคนดิเดต” อีกอย่างน้อย ก็ 2 คนเข้ามาประกอบเพื่อสร้างหลักประกันความผิดพลาดที่จะเกิด
นี่คือจุดและความไม่แน่นอนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปมเงื่อนมิได้อยู่ที่ว่าอำนาจยังอยู่ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เหมือนเมื่อแรกรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 หรือเมื่อหลังเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 อยู่หรือไม่
หากอยู่ที่ว่า “การเลือกตั้ง” เป็นเรื่องของ”พรรคการเมือง”
จำเป็นต้องให้การตัดสินใจขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา
ที่สำคัญคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเลขาธิการพรรค
