ขบวนกี v.4 โชว์แดร็กควีน เปลือยพันธนาการ ง้างเผด็จการ กลาง ‘แยกสีลม’
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ที่ปากซอยธนิยะ ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก และแนวร่วม จัดกิจกรรมคาร์ม็อบ ขบวนกี v.4 “เปลือย” มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยจะมีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และปราศรัยเปลือยปัญหาที่ซุกใต้พรมในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เวลา 12.59 น. กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกเปิดเผยว่า รถของ ‘ขบวนกี’ ถูกดักไม่ให้เข้ากรุงเทพมหานคร จึงมีการโพสต์ขอรถอาสาสมัครและเครื่องเสียงสำหรับทำกิจกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ปากซอยธนิยะ (สีลม 2) กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก นำโดย น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง หรือวาดดาว แกนนำกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก และแกนนำกลุ่มทะลุฟ้า อาทิ นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ เตรียมธงไพรด์หลากสี สกรีนข้อความ “เฟมินิสต์ปลดแอก” และสัญลักษณ์ของกลุ่ม สื่อถึงความเท่าเทียมหลากหลายทางเพศ มากองที่บริเวณทางลงสถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง พร้อมเชิญชวนให้ผู้ชุมนุมร่วมถือ ไปจนถึงแจกธงสีรุ้งให้ประดับที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์
ขณะที่สมาชิกกลุ่มเฟนิสต์ปลดแอกแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น บางรายนำหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ รวมถึง น.ส.ชุมาพร หรือวาดดาว และศิริ นิลพฤกษ์ หรือทาทา ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ร่วมเตรียมอุปกรณ์ทำกิจกรรม ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังและบันทึกภาพรอบบริเวณ
เวลา 14.18 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าพูดคุยกับผู้ร่วมชุมนุมให้เคลื่อนรถที่จะร่วมขบวนไปจอดริมทางเท้าได้เพียง 1 เลนเท่านั้น ด้านผู้ชุมนุมทยอยมารวมตัวอย่างต่อเนื่อง
เวลา 14.28 น. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ พร้อมรถของทีมงานการ์ด We volunteer หรือวีโว่ เดินทางมาถึง โดยจอดปิดท้ายขบวน เตรียมดูแลความปลอดภัยตลอดการชุมนุม พร้อมด้วยรถของทีมงานหน่วยพยาบาลอาสา นอกจากนี้ ยังมีทีมงาน child in mob ร่วมติดแท็กที่ข้อมือของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี
เวลา 14.35 น. มีการกางธงไพรด์สีรุ้งขนาดใหญ่ ก่อนช่วยกันถือมายังแยกสีลม และกางบนพื้นที่แยกสีลม
เวลา 14.42 น. นายสิรภพ อัตโตหิ หรือแรปเตอร์ กล่าวเปิดเวทีว่า กลุ่มเฟมินิสต์ออกมาเปลือย และต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในทุกมิติ รวมไปถึงความเท่าเทียมหลากหลายทางเพศ
เวลา 14.43 น. ตั้งขบวนคาร์ม็อบ กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกทำการแสดงพิเศษ โชว์แดร็กควีน (Drag Queen) โดยผู้มีความหลากหลายทางเพศ และสมาชิกเฟมินิสต์ปลดแอก ด้วยการเต้นยั่วยวน และปลดเปลื้องพันธนาการบางส่วนที่ห่อหุ้มร่างกาย พร้อมเปิดเพลงที่มีเนื้อหากล่าวถึงตัวตนของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ท่ามกลางผู้ชุมนุมร่วมส่งเสียงเฮ ปรบมือสนั่นและบันทึกภาพ
เวลา 14.58 น. เคลื่อนขบวน จุดเริ่มต้นที่แยกสีลม เลี้ยวขวา เคลื่อนต่อบนถนนพระราม 4 เข้าสู่ถนนราชดำริ ผ่านแยกราชประสงค์ แยกประตูน้ำ เข้าสู่ถนนเพชรบุรี ผ่านแยกยมราช เคลื่อนต่อบนถนนหลานหลวง สู่ปลายทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รวมระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร โดยมีรถจักรยานยนต์ รถปราศรัยนำขบวน ตามด้วยรถยนต์
กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอกเปิดเผยถึงเหตุผลของการเปลือยร่างกาย สานต่อภารกิจของนางวรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า ด้วยว่า
ทำไมต้อง “เปลือย” ? เราจะเปลือยไปเพื่ออะไร การเปลือยประท้วงส่งผลอะไรต่อสังคม หรือแค่อนาจารอยากจะโชว์สนองกำหนัดกันแน่
“เปลือย” (คำวิเศษณ์) ความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554
1.ไม่มีสิ่งใดปกปิดร่างกาย
2.โดยปริยายใช้เรียกสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงเช่นนั้น
การเปลือยกาย คือการปลดเปลื้องพันธนาการจากเสื้อผ้า เป็นอิสระจากการเครื่องปกปิดร่างกาย และเป็นอีกหนึ่งการกระทำเชิงสัญลักษณ์ที่ใช้ในการต่อสู้ทางการเมืองทั่วโลกเสมอมา “ฉันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ฉันไม่กลัวสายตาจับจ้องของผู้คน ฉันไม่กลัวการถูกพูดถึงนินทาในร่างกายของฉัน เพราะฉันยอมทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้ซึ่งสิ่งที่เรียกร้อง”
เปลือย = ปลดปล่อย
การเปลือยเป็นเสมือนการปลดปล่อยบางสิ่งบางอย่างจากพันธะ จากการปกปิด จากแอกที่ครอบงำ ดังนั้น เราจึงอนุมานได้ว่าเราต้องเปลือยจากการกดขี่ของสังคม เปลือยจากประเทศนี้ เปลือยจากเผด็จการทหาร และนั่นก็เป็นที่มาของ 5 ข้อเรียกร้องม็อบ “เปลือย” ของเราในวันที่ 9 ตุลาคมนี้
1) เปลือยอคติทางเพศเพื่อสวัสดิการผ้าอนามัย
เพราะผ้าอนามัยควรเป็นรัฐสวัสดิการ ผู้มีมดลูกทุกคนไม่สามารถที่จะหยุดการมีประจำเดือนที่เป็นไปตามธรรมชาติได้ และในไทยก็ยังมีคนอยู่มากที่ประสบปัญหาขาดแคลนผ้าอนามัย รัฐกดขี่พวกเราไม่พอ มิหนำซ้ำยังขูดรีดภาษีจากเลือดประจำเดือนอีก
2) เปลือยจารีตเพื่อสนับสนุนสมรสเท่าเทียม
เพราะแค่ พ.ร.บ.คู่ชีวิตไม่พอ! ทำไมเพศหลากหลาย (LGBTQ+) จึงไม่สามารถได้รับสิทธิที่เท่าเทียมในการมีคู่สมรสเช่นเดียวกันกับคู่รักชาย-หญิง รัฐแบ่งแยกเรา รัฐกีดกันจากสิทธิเสรีภาพขนาดนี้เชียวหรือ
3) เปลือยกฎหมายปิดปาก เพื่อยกเลิกกฎหมาย 112
เพราะกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้นเป็นกฎหมายที่ลิดรอนซึ่งสิทธิมนุษยชน เพื่อนเรามากมายถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ เพื่อก้าวสู่ความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เราต้องมาร่วมกันยกเลิกกฎหมายนี้
4) เปลือยเรื่องต้องห้ามเพื่อรณรงค์ปฏิรูปสถาบันฯ
5) เปลือยรัฐธรรมนูญปิตาธิปไตยให้เห็นรัฐธรรมนูญสีรุ้ง
เพราะรัฐธรรมนูญที่ถูกเปลี่ยนแปลงและใช้ในปัจจุบันโดยรัฐเผด็จการประยุทธ์ ไม่โอบอุ้มความหลากหลาย ไม่ใช่แค่เรื่องเพศอย่างเดียวเท่านั้น ลิดรอนกันทุกหย่อมหญ้าโดยใช้กฎหมาย รัฐธรรมนูญควรโอบอุ้มเพศหลากหลาย สิทธิ เสรีภาพ ความหลากหลายของประชาชน
