‘ทะลุแก๊ซ’ เดินต้อนตำรวจ ‘ทะลุฟ้า’ ซัดคุกคาม-ปล่อยเพื่อนเรา จีโน่ประจำเรือนจำพิเศษ
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กลุ่มทะลุฟ้าจัดกิจกรรม “เสวนากระบวนการยุติธรรม กับอิสรภาพนักเคลื่อนไหวทางการเมือง” ระหว่างเวลา 16.00-19.00 น. เพื่อยืนยันใน 4 ข้อเรียกร้อง คือประยุทธ์ออกไป เขียนรัฐธรรมนูญใหม่, ปฏิรูปสถาบัน, ปฏิรูปตุลาการ และคืนสิทธิการประกันตัว
โดยบรรยากาศเวลา 15.55 น. มีการตั้งเวทีเสวนาบริเวณหน้าหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมขึงป้ายผ้าข้อความ ‘พวกเขาคือนักสู้ไม่ใช่นักโทษ’ เป็นฉากหลังของเวที และติดภาพวาดของนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ถูกคุมขัง
ส่วนบริเวณประตูเรือนจำ กลุ่มทะลุฟ้าจัดนิทรรศการศิลปะ โดยติดภาพวาดจากหลากหลายศิลปินเพื่อประชาชน เรียงรายตลอดแนวรั้วเรือนจำ อาทิ ภาพของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง, น.ส.เบนจา อะปัญ แกนนำกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า, นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย ไปจนถึงขึงป้ายผ้า 4 ข้อเรียกร้อง กระจายรอบพื้นที่ชุมนุม ทั้งบนทางเท้าและเกาะกลางถนน
นอกจากนี้ ยังมีพ่อค้าแม่ขายตั้งร้านจำหน่ายสินค้าเชิงสัญลักษณ์ เสื้อยืด หนังสือ และอาหาร มีกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร นำโดย นายโชคดี ร่มพฤกษ์ หรืออาเล็ก ตั้งเวทีบรรเลงดนตรีและพูดคุยอีกหนึ่งจุด ใกล้กับประตูทางเข้าเรือนจำกลางคลองเปรม โดยมีการขึงลวดหนามหีบเพลงตลอดแนวรั้วเรือนจำ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พบรถน้ำแรงดันสูงจำนวน 2 คัน และรถคุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คัน จอดอยู่ภายในสถานบำบัดพิเศษกลาง ใกล้กับเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
เวลา 16.03 น. แกนนำกลุ่มทะลุฟ้ากล่าวเปิดเวที และเชิญชวนผู้ร่วมกิจกรรมร่วมเขียนข้อความส่งกำลังใจให้เพื่อนที่อยู่ในเรือนจำ
พิธีกรทะลุฟ้ากล่าวว่า วันนี้เป็นวันครบรอบการจัดม็อบ 13 ตุลาคม 2563 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีการสลายการชุมนุมไม่ชอบด้วยหลักสากล ทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายผู้ชุมนุมอีกด้วย ก่อนกล่าวถึงการเปิดประเทศที่ยังกังวลอยู่ว่าจะสามารถประเทศได้จริงหรือไม่ เนื่องจากยังฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไม่มากพอ
“นี่จึงไม่ใช่เรื่องเล่น เพราะรัฐบาลยังไม่คลายมาตรการในประเทศ แต่กลับให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศได้ก่อน จึงต้องตั้งคำถามไปถึงรัฐบาลว่าคิดอะไรอยู่” สมาชิกทะลุฟ้ากล่าว และว่า รัฐบาลจับกุมคุมขังประชาชนมากมาย เรื่องที่ควรทำก็ไม่ทำ เรื่องที่ไม่ควรทำ ดีอยู่แล้วก็มาเปลี่ยนให้เสียหมด ประชาชนอีสานที่ประสบภัยพิบัติน้ำท่วมยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด และล่าสุดพายุกำลังจะพัดมาอีก
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 16.32 น. ผู้ร่วมชุมนุมทะลุแก๊ซขี่รถจักรยานยนต์ชู 3 นิ้ว มาจอดริมทางเท้า ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินเท้าเข้ามาในเวลาเดียวกัน เยาวชนทะลุแก๊ซจึงเดินต้อนเจ้าหน้าที่และด่าทอ โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่คุกคาม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง
พิธีกรทะลุฟ้า กล่าวประณามเจ้าหน้าที่ที่คุกคามประชาชน จากนั้นทำกิจกรรมตะโกนทะลุฟ้า
เวลา 16.39 น. “ต๋ง ทะลุฟ้า” ร่วมตะโกนด่าทอ พล.อ.ประยุทธ์ และกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม
ไปจนถึงส่งเสียงยืนยันว่าเราไม่ลืมเพื่อนเราทุกคน วันนี้เป็นวันเกิดของหนึ่งในสมาชิกทะลุฟ้าด้วย
เวลา 16.40 น. ผู้ชุมนุมหญิงกล่าวว่า ตนติดโควิด โดนไล่ออกจากงาน ตอนนี้ว่างงาน ไปสมัครงานที่ไหน เมื่อรู้ว่าเคยติดโควิด ก็ไม่มีที่ไหนรับเข้าทำงาน รัฐบาลไม่มีสวัสดิการมาจุนเจือ
เยาวชนหญิงกล่าวต่อว่า ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นอะไรมากหรือ วัคซีนกว่าจะได้ โรงเรียนกว่าจะเปิด ชีวิตวัยรุ่นพังหมด พ่อแม่พี่น้องไม่ได้อยู่ด้วยกัน เรียนไม่รู้เรื่อง สอบก็ไม่รู้เรื่อง ล่าสุดจะเปิดประเทศ คลายล็อกดาวน์ก่อนหรือไม่ อยู่ที่จิตใต้สำนึกของท่าน อย่าเห็นแก่อำนาจเงินตรา
เวลา 16.45 น. สมาชิกทะลุแก๊ซกล่าวเปิดใจว่า ตนสู้กับทะลุแก๊ซทุกคืน ไม่กลัวกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม พ่อของตนทำงานรับเหมาก่อสร้าง ลูกน้องของพ่อติดโควิด-19 ตาย เพราะรัฐบาลชุดนี้ และตนคือคนหนึ่งที่ไม่ได้เรียน เพราะรู้สึกว่าการศึกษาไทยล้มเหลว อยากจะไปเรียนก็ไม่ได้ไปเรียน
“ผมหมดหวังจริงๆ กับรัฐบาลชุดนี้” สมาชิกทะลุแก๊ซกล่าว
ชายคนเสื้อแดงกล่าวว่า ตนผ่านสไนเปอร์มาก่อน ทุกวันนี้ ‘แพ้กาลเวลา’ จำไว้ว่าคนคิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม
เยาวชนหญิงชวนผู้ชุมนุมตะโกน “ปล่อยเพื่อนกู” และกล่าวว่า แม้เพื่อนจะอยู่ข้างใน แต่อุดมการณ์ของเพื่อนยังสู้อยู่ตรงนี้ ทำร้ายเราได้แต่นี้ นี่คือการต่อสู้ และต่อต้านจากประชาชน
โดยเวลา 17.07 น. ขณะที่แร็พเปอร์คลองเตย หนึ่งในผู้ชุมนุมทะลุแก๊ซ กำลังร้องเพลงส่งเสียงผู้นำประเทศ ไฟเครื่องเสียงเกิดดับ ผู้ชุมนุมจึงตะโกน “I here too” และ “ปล่อยเพื่อนเรา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกิจกรรมไฮไลค์ในวันนี้ คือวงเสวนาที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและสิทธิ เข้าร่วมพูดคุยถึงปัญหาของกระบวนการยุติธรรม อาทิ ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์, นายธนพัฒน์ กาเพ็ง หรือปูน ทะลุฟ้า, น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือทนายแจม ทนายความประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, นายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เครือข่าย People Go Network ดำเนินรายการโดย น.ส.พริม มณีโชติ หรือเอ๋ย
เวลา 17.15 น. นางสุรีย์รัตน์ ชิวารัตน์ มารดาของนายพริษฐ์ น.ส.สิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวของนายวันเฉลิม และ น.ส.ประกายดาว พฤกษาเกษมสุข หรือเทียน ลูกสาวของ นายสมยศ เดินทางมาร่วมสังเกตการณ์
เวลา 17.20 น. นักกิจกรรมหญิงทำการแสดงสด โดยราดสีแดงไปที่ลำตัว สื่อถึงเลือดเนื้อพี่น้องที่ประชาชนที่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อ เพียงเพราะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และเป็นตัวแทนของเลือดของประชาชนที่กำลังสู้อยู่ ซึ่งจะสู้ต่อไปเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย
โดยนายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ ทะลุฟ้า กล่าวบทกวีขณะทำการแสดง ใจความถึงการคืนสิทธิให้ประชาชน และการของจำนักกิจกรรม พร้อมตั้งแต่คำถามว่าใครขโมยสิทธิของประชาชชนไป และยัดเยียดความมืดมัวให้
ขณะที่สมาชิกทะลุฟ้าโปรยกระดาษ ที่เขียนข้อความหยุดใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ปล่อยเพื่อนเรา ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ด้านนักแสดงหญิงค่อยๆ คลานไปบนพื้นหน้าเรือนจำ ทับกระดาษข้อความดังกล่าว
สมาชิกทะลุฟ้ากล่าวว่า เราอยากเจอเพื่อน อยากให้ได้รับอิสรภาพ แม้ครั้งนี้จะไม่สามารถเข้าไปกอดได้ตัวต่อตัว ก็ขอสร้างสัญลักษณ์ด้วยการแปะเลือดสีแดงไว้ที่น่าเรือนจำ เรายังสู้อยู่
