“บิ๊กตู่”ครวญ บอกรู้โซเชียลด่าเยอะแต่ไม่เคยโกรธ ย้ำนายกฯทำให้ดีที่สุดหวังทำประเทศเดินไปข้างหน้า หนุนต่อยอดสร้างฐานการเรียนรู้แบบ “บวร” บ้านวัดโรงเรียน “เขิน” หลังเจอพระครูกระเซ้า อีก 5 ปี จะนำทุเรียนไปฝาก ด้านตร.เข้ม! หวั่นเกิดเหตุม็อบต้านเหมือน“บิ๊กป้อม”ไปขอนแก่นวานนี้
ที่จังหวัดอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวตอนหนึ่งระหว่างตรวจเยี่ยมแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทน “โคกอีโด่ยวัลเล่ย์” ณ โรงเรียนศรีแสงธรรม และศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนองนา ว่า ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการสืบสานรักษาต่อยอดตามพระราโชบายของในหลวงรัชกาลที่ 10 ตามพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะทำให้ดีทำให้ต่อเนื่องและทันสมัยให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทั้งนี้ตนดีใจและชื่นใจ นี่คือการสร้างพลังจากท้องที่ท้องถิ่นขึ้นมาในการสร้างความเข้มแข็งริเริ่ม ส่วนความเดือดร้อนปัญหาต่างๆจะมอบหมายให้รมว.มหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล โดยตนจะประสานให้ทั้งหมด เพื่อสร้างฐานการเรียนรู้และใช้ประโยชน์ไปด้วย เป็นการใช้บ้าน วัด โรงเรียนหรือเรียกว่าบวร
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้มีปัญหาหลายอย่างที่รัฐบาลต้องดูแลช่วยเหลือ เพราะอยากให้ศูนย์เรียนรู้เช่นนี้เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นๆ ส่วนเรื่องไฟฟ้าพลังงานวันหน้าเราต้องประหยัดพลังงานเพื่อลดโลกร้อน จึงต้องศึกษาและดำเนินการต่อไปให้ใหญ่ขึ้นและทำต่อจากสิ่งที่ทำไว้ แต่ประชาชนต้องเข้าใจด้วย นอกจากนี้ขอชื่นชมเด็กนักเรียนที่ได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีหลายคนไปเกาหลีอย่างลิซ่า อย่างไรก็ตามรัฐบาลจะดูแลและขับเคลื่อนให้ฐานการเรียนรู้นี้ขยายต่อ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับเด็กและเกิดประโยชน์กับชาวบ้าน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พบปะและมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนโรงเรียนศรีแสงธรรม โดยมีตัวแทนนักเรียนอ่านกลอนต้อนรับ จากนั้นนายกฯ กล่าวขอบคุณพร้อมกล่าวว่าถ้ามีเวลาจะแต่งกลอนตอบไปแล้ว ก่อนที่นายกฯ กล่าวกับนักเรียนว่า วันนี้ทุกเรื่องที่เป็นปัญหาตนรับไปแล้วยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด เพราะเราเป็นรัฐบาลแต่ต้องทำให้ถูกต้องเพราะมีกฎระเบียบกฎหมายต่างๆ ย้ำว่ารัฐบาลมีจุดมุ่งหมายทำอย่างไรให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า สิ่งที่วางไว้ยุทธศาสตร์ 20 ปีต้องเดินไปทุกปีไม่ใช่วางไว้ 20 ปีจะอยู่กับที่ตามที่นายกฯ พูด มันไม่ใช่ จึงขอให้ทุกคนเข้าใจและเรียนรู้ว่ายุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้านคืออะไร ซึ่งถือเป็นโจทย์เท่านั้น แต่มีแผนแม่บทและแผนงานโครงการที่ต้องทำต่อเนื่องทุกปี และรวมผลงาน 5 ปีว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทุกคนเป็นทรัพยากรที่ต้องพัฒนาไปสู่อนาคต อนาคตอยู่ที่ทุกคน เราต้องหาวิธีการให้ทุกคนมีอนาคตที่ดี นี่คือหน้าที่ของรัฐบาลในการดูแลเรื่องการศึกษาเรียนรู้และทำให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยทั้งหมดอยู่ในพื้นฐานของความพอเพียง วันหน้าพวกเราจะเป็นคนใช้ประโยชน์และพัฒนาต่อจากสิ่งที่ทำไว้วันนี้ ยืนบันว่านายกฯ จะทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ครูเปรียบเสมือนพ่อแม่คนที่ 2 ซึ่งเราสังคมเราจะดีขึ้นได้เริ่มจากครอบครัว ต่อมาคือครูอาจารย์ผู้อบรมสั่งสอนและเราอยู่ในกลุ่มคนที่คิดดีทำดีไปด้วยกัน สิ่งเหล่านี้คิดว่าไม่มีทางที่จะไม่ก้าวหน้า และวันนี้อยากให้ตั้งเป้าไว้ว่าเราอยากเป็นอะไร อยากเป็นทหารอยากเป็นตำรวจหรือข้าราชการ ต้องแข็งแรงกินข้าวเยอะๆ ออกกำลังกายให้ตัวสูงๆคนไหนอยากเป็นครู พยาบาลเป็นได้หมด วันนี้ลุงอยู่ลุงทำให้ วันหน้าข้าราชการต้องเข้มแข็งอยู่แล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า “วันนี้โซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่เป็นปัญหาทั้งโลก ตนเปิดไปดูไม่เคยโกรธอาจจะว่าลุงเยอะหน่อย แต่ลุงรู้ว่าลุงทำอะไรอยู่ ไม่ได้ทำอะไร ลุงไม่เคยโกรธอยู่แล้ว เพราะห้ามยาก”
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชม พร้อมพบปะกับขาวบ้านในบูทกิจกรรมต่างๆ พร้อมถ่ายรูปอย่างอารมณ์ดี รวมทั้งได้แนะนำบรรดารัฐมนตรีเป็นระยะๆและรับปากว่าจะทำถนนหนทางต่างๆให้กับชาวบ้าน โดยช่วงหนึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สวมงอบชาวนาและหาบสาแหรกโพสต์ท่าถ่ายรูปรวมทั้งกล่าว “ขอบคุณนะจ๊ะ” หลังชาวบ้านบอกให้สู้ๆ พร้อมกล่าวว่า ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติ และครอบครัว รวมทั้งต่อยอดหนองนาโมเดล ซึ่งต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันสร้างการเรียนรู้ให้กับชาวบ้าน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ขึ้นรถรางเพื่อเยี่ยมชมฐานการเรียนรู้ต่างๆภายในศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบ โคก หนองนา โดยช่วงหนึ่งพระครูวิมลปัญญาคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีแสงธรรม ระบุว่าได้ปลูกทุเรียนไว้ประมาณ 50 ต้น คาดว่าอีก 5 ปีคงจะได้กินผล แล้วจะเอาไปฝากนายกรัฐมนตรี ซึ่งเชื่อว่าคงจะได้เจอกันอีก 5 ปีแน่นอน ซึ่งเมื่อพูดถึงตรงนี้ทำให้บรรดาคณะรัฐมนตรี ที่เดินทางไปด้วยหัวเราะชอบใจ ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ แบบสงวนท่าที ก่อนกล่าวว่า “ขอบพระคุณจ้ะ”
ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับ ได้มีกลุ่มชาวบ้านมาถือป้ายสนับสนุนและให้กำลังใจ อาทิ “ลุงตู่สู้สู้” “เรารักลุงตู่นะ” ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มอย่างพอใจ ก่อนจะทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและมินิฮาร์ท ก่อนกล่าวขอบคุณชาวบ้านกลุ่มดังกล่าว พร้อมระบุว่า ขอให้ทุกคนร้องเพลงรักกันไว้เถิดไว้
อย่างไรก็ตามในการลงพื้นที่ครั้งนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นที่สนใจของบรรดานักเสี่ยงโชคเช่นเคย โดยได้ถ่ายรูปและจดทะเบียนรถของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้ลงพื้นที่ครั้วนี้คือ กฉ 1111 ศรีษะเกษ นำไปเสี่ยงดวงกันอย่างคึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศการเตรียมพร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ ศาลาประชาวาริน ต.วารินชําราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ทั้งในส่วนของการจัดบูธนิทรรศการ รถครัวสนาม โดยมณฑลทหารบกที่ 22 พร้อมมีการบริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ของอาชีวศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี การเดินหน้าช่วยประชาชนในการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยกระทรวงแรงงาน ร่วมกันจัดสร้างสุขาลอยน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำงานหากิน และซ่อมรถจักรยานยนต์ รวมถึงการแจกจ่ายน้ำดื่ม และถุงยังชีพให้แก่ประชาชน
ทั้งนี้ แม้นายกรัฐมนตรี และคณะ จะมีกำหนดการเดินทางมาถึง อ.วารินชำราบ ในช่วงบ่าย เวลา 14.45 น. แต่ได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งในและนอกเครื่องแบบ 2 กองร้อย โดยได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความวุ่นวายหลังการข่าวมีการแจ้งว่าจะมีการนัดรวมตัวเคลื่อนไหวที่บริเวณศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ในเวลา 13.00 น. ที่นำโดยว่าที่ร.ต.ฉัตรชัย แก้วคำปอด หรือทนายแชมป์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.อดีตพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จ.อุบลราชธานี แกนนำม็อบอุบลปลดแอก ก่อนจะเดินทางมาที่ศาลาประชาวาริน ซึ่งเป็นจุดที่นายกรัฐมนตรีและคณะ จะรับฟังปัญหาของประชาชน และมอบถุงยังชีพ ทั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์เหมือนการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วานนี้ (14 ต.ค.64) ที่ถูกมวลชนออกมาต่อต้านจนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ เพราะถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ที่อาจเกิดการต่อต้านจากคนในพื้นที่ได้