ชทพ.-ภท.ร่างแก้ กม.เลือกตั้ง ส.ส.เสร็จ ‘บิ๊กตู่’ บินอุบลฯ-ส.ส.พปชร.แห่รับคึกคัก
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์กรณีการแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้พรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคภูมิใจไทย ได้ยกร่างแล้วเสร็จแล้ว มีเนื้อหาที่แก้ไขไม่เกิน 10 มาตรา แก้ไขรายละเอียดให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเท่านั้น ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รายงานกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่ามีการแก้ไข 30 มาตรานั้น เชื่อว่าจะแก้ไขในประเด็นอื่นๆ ที่มีปัญหากับการบริหารงาน ฐานะองค์กรอิสระที่ดูแลการเลือกตั้ง หากเสนอแล้วมีเหตุผลพรรคการเมืองยินดีสนับสนุน
“การเสนอแก้ไขกฎหมายลูก เชื่อว่าจะใช้เวลาพอสมควร เพราะร่างกฎหมายลูก มีสถานะเป็นกฎหมายการเงิน เมื่อพรรคการเมืองเสนอให้ประธานรัฐสภาแล้ว ประธานรัฐสภาต้องส่งให้นายกรัฐมนตรีอนุมัติก่อน และเมื่อนายกรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว จึงจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาวาระแรก และต้องจัดการรับฟังความเห็นด้วย” นายนิกรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายวิษณุระบุว่ายังไม่มีความเร่งด่วนที่จะแก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับที่แก้ไขใหม่ นายนิกรกล่าวว่า ความเห็นคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มีความจำเป็นต้องแก้ไข เพราะมีเนื้อหาขัดแย้งกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง โดยเฉพาะมาตรา 51(2) ที่กำหนดเนื้อหาต่อการส่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อที่กำหนดให้มี 150 คน ทั้งที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่รัฐสภาเห็นชอบ กำหนดให้มี 100 คน
นายนิกรกล่าวว่า ใน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ยังมีเนื้อหาที่สร้างปัญหาต่อการปฏิบัติ คือ กรณีกำหนดให้มีผู้แทนพรรคการเมืองประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อมีส่วนร่วมต่อการพิจารณาส่งผู้สมัคร ส.ส. เนื่องจากมีการปรับจำนวน ส.ส.แบบเขตเลือกตั้ง เป็น 400 เขต ทำให้ต้องแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด เพราะของเดิมกำหนดให้มี 350 เขต ดังนั้นต้องมีการขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ แต่กว่าจะทำได้ ต้องรอให้มีพระราชกฤษฎีกาประกาศให้มีการเลือกตั้งก่อน ดังนั้นจะทำให้พรรคการเมืองมีปัญหาต่อการเตรียมพร้อม จึงควรแก้ไข โดยกำหนดให้มีผู้แทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดแทนประจำเขตเลือกตั้ง เพื่อให้มีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งขั้นต้น (ไพรมารีโหวต) เนื้อหาเหมือนกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2561 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) วันที่ 14 กันยายน 2561 หรือเนื้อหาตามร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมือง ฉบับของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)
วันเดียวกัน เวลาประมาณ 08.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมคณะ ออกเดินทางไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 21 ตำบลในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจราชการจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีคณะรัฐมนตรีร่วมคณะ ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม นางสาวตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม และนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ร่วมคณะ
ในส่วนการต้อนรับของนักการเมืองในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำ ส.ส.พลังประชารัฐ ร่วมต้อนรับ อาทิ นายธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์ ส.ส.อุบลราชธานี เขต 6 นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายณัฏฐพล จรัสรพีพงษ์ ส.ส.สุรินทร์ เขต 2 นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.พิจิตร เขต 1 นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พิจิตร เขต 2 นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 นายจิรเดช ศรีวิราช ส.ส.พะเยาเขต 3 นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.เขต 3 ลำปางนายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.ลำปาง เขต 4 นายเชิงชัย ชาลีรินทร์ ส.ส.ชัยภูมิ เขต 2 นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ เขต 3 นายอรุณ สงขลา ส.ส.สงขลา เขต 4 และเป็นที่น่าสังเกตว่ามี นายสมัคร ป้อมวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 2 พรรคชาติพัฒนา มาร่วมต้อนรับด้วย
