หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินบ่นอุบบัตร 2 ใบ ไพรมารีโหวต ทำพรรคเล็กตายทั้งแถบ

หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินบ่นอุบบัตร 2 ใบ ไพรมารีโหวต ทำเอาพรรคเล็กตายทั้งแถบ ชี้รัฐธรรมนูญให้สิทธิประชาชนอย่าตัดคะแนนทิ้งให้ตกน้ำ ส่วนไพรมารีโหวตทำแต่ละจังหวัดก็เพียงพอแล้ว พรรคเล็กไม่มีเงิน

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผยถึงการที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ว่าในเรื่องนี้แม้ว่าจะมีการแก้ไขให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) โดยใช้บัตร 2 ใบให้เลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 เขต และเลือกตั้งระบบสัดส่วนแบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน อยู่ระหว่างลงพระปรมาภิไธยก็ดำเนินการไปตามกฎหมาย แต่ที่สำคัญการแก้ไขดังกล่าวได้รับผลกระทบจากพรรคเล็กจำนวนมากที่จะส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะมีการกล่าวกันว่าให้ใช้จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง และหารด้วยจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน หากมีผู้มาลงคะแนนเสียง 35 ล้านคน เมื่อหารออกมาแล้ว ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน จะต้องใช้คะแนนเสียงสูงถึง 350,000 เสียง ถึงจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน ทั้งที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ใช้คะแนน 3 หมื่นเศษเท่านั้น

นายประมวลกล่าวว่า ในเรื่องนี้การพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรน่าจะกำหนดที่มาของ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ให้ชัดเจนไปเลย อาทิ 1 แสนคะแนนได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อได้ 1 คน หลังจากนั้นเฉลี่ยให้พรรคเล็กๆ ก่อน หลังจากนั้นไปพิจารณา ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์พรรคการเมืองใหญ่ที่ได้คะแนน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์จำนวนมาก เพื่อให้โอกาสพรรคการเมืองเล็กๆ ได้มี ส.ส.เข้าสู่สภาบ้าง จะได้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญว่ารับฟังเสียงส่วนมาก แต่ไม่ควรละเลยเสียงส่วนน้อย ไม่ใช่พิจารณาเอาแบบง่ายๆ นำคะแนนเสียงผู้มาใช้สิทธิหารด้วยจำนวนปาร์ตี้ลิสต์ 100 คน ก็จะทำให้คะแนนของพรรคเล็กได้ไม่ถึงจำนวนที่ตั้งไว้ ก็จะทำให้คะแนนตกน้ำและเสียไป ส่งผลให้พรรคการเมืองเล็กหายไปจากระบบการเมือง ซึ่งไม่ตรงกับเจตนาของรัฐธรรมนูญ

Advertisement

นายประมวลกล่าวอีกว่า ส่วนไพรมารีโหวตนั้นตนเห็นว่าพรรคการเมืองจะต้องมีสาขาพรรคทั้ง 4 ภาคนั้นเห็นด้วย ส่วนที่จะกำหนดให้ไพรมารีโหวตทำทุกเขตเลือกตั้งนั้น จะส่งผลกระทบต่อพรรคเล็กมากมาย ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า พรรคเล็กไม่มีเงินถุงเงินถังเหมือนกับพรรคใหญ่ๆ และการทำไพรมารีโหวตนั้นต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า คนไทยไม่ใส่ใจในเรื่องการเมือง การที่ต้องหาสมาชิกพรรคนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก อย่างน้อยก็จะต้องใช้ระบบแรงงานขึ้นต่ำ อาทิ 300 บาท ให้มาประชุม จะต้องใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ หากรวมทั้งจำนวนผู้จะต้องส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ จะต้องใช้เงินหลายล้านบาท พรรคใหญ่ๆ ไม่มีปัญหาเพราะได้รับการสนับสนุนจากนายทุน ส่วนพรรคเล็กใครจะมาสนับสนุน เพราะไม่ได้รับผลประโยชน์ อยากให้ใช้ระบบเดิมเหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา โดยให้แต่ละจังหวัดทำไพรมารีโหวตเพียงเขตเดียวก็เพียงพอแล้ว ควรให้พรรคเล็กได้มีโอกาสทางการเมืองบ้าง

“การแก้ไขให้การเลือกตั้ง ส.ส.ใช้บัตร 2 ใบ ยังไม่ทันลงพระปรมาภิไธยเลย นายวิษณุ เครืองาม ก็ออกมาให้ กกต.เตรียมร่างกฎหมายประกอบการเลือกตั้งแล้ว เหมือนกับจะเตรียมการเลือกตั้งใหม่ รวมทั้งแกนนำของรัฐบาลเริ่มลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านเหมือนกับหาเสียงกัน ทำให้พรรคการเมืองเล็กๆ ตั้งตัวแทบไม่ทัน เหมือนจะมีอะไรแอบแฝง” นายประมวลกล่าว และว่า ทำให้ประชาชนมองรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ อาจจะมีการยุบสภา เพราะการเมืองในขณะนี้ไม่มีอะไรแน่นอน อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งใน ส.ส.ในสมัยหน้าอยากให้คำนึงถึงพรรคการเมืองเล็กๆ บ้าง เพื่อเป็นปากเสียงให้กับประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image