09.00 INDEX ทิศทาง รัฐบาล การเปิดประเทศ กับ ประกาศ สถานการณ์ ฉุกเฉิน
ยังไม่ทันที่การเปิดประเทศในทางเป็นจริงจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน แต่ปรากฏการณ์ “ล่วงหน้า” ได้สำแดงให้เห็นแล้วจากสภาพรถเริ่มติดเหมือนกับที่เคยติด
ความหมายก็คือ ประชาชนเริ่มรู้สึกผ่อนคลายและปรับตัวเข้ากับสภาพการณ์ใหม่โดยอัตโนมัติ
บรรยากาศที่สัมผัสได้ในระหว่างการเดินสายในนามของการตรวจราชการไม่ว่าจะมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะมา จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือขบวนต้อนรับอันคึกคัก
เป็นขบวนการต้อนรับซึ่งพังทลายการกำหนด “ระยะห่าง” ของกันและกันอย่างสิ้นเชิง เป็นขบวนการต้อนรับจากการเกณฑ์นักเรียน แม้จะอยู่ระหว่างเรียนออนไลน์ก็ตาม
อย่าได้แปลกใจหากจะมีคำประกาศอย่างผ่อนปรนจากพรรคพลังประชารัฐโดยเฉพาะจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
การเกิดขึ้นของ “ม็อบต้าน” ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติทางการเมือง
เท่ากับเป็นการตอกย้ำอีกคำรบหนึ่งว่า ที่จะมาพร้อมกับการเปิดประเทศก็คือ การชุมนุมทางการเมือง
นับแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่งสัญญาณในเรื่อง “เปิดประเทศ” เป็นลำดับมา มีสิ่งหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เคยให้คำรับรอง
นั่นก็คือ จะยังคงประกาศและการบังคับใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่
โดยพื้นฐานจากคำยืนยันล่าสุดจากศูนย์อำนวยการบริหารราช การในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อต่อสู้กับโควิดก็คือจะยังคงประกาศเอาไว้อย่างน้อยก็อีก 2 เดือน
ความย้อนแย้งในลักษณะนี้เหมือนกับจะเป็นผลดีต่อรัฐบาลและต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้งๆที่ในอีกด้านหนึ่งเท่ากับเป็น
การประจานว่าเป้าหมายของประกาศฉุกเฉินคืออะไรกันแน่
ในสถานการณ์เปิดประเทศจึงไม่เพียงจะสะท้อนให้เห็นทางเลือกระหว่างเศรษฐกิจกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดเท่านั้น หากแต่ ยังหมายถึงการผ่อนคลายในทางการเมืองอีกด้วย
สภาพการณ์ที่สำคัญก็คือ รัฐบาลต้องสร้าง “ความมั่นใจ”
และภายในความมั่นใจนั้นรัฐบาลต้องพร้อมที่จะเผชิญกับกระแสการต่อต้านในทางการเมืองจากทุกสารทิศที่รอคอยอยู่
ความหมายก็คือ เมื่อ “เปิดประเทศ” ก็ต้องเปิดประตูให้ “ม็อบ”