‘บิ๊กตู่’ ตรวจพนังกั้นน้ำวัดเฉลิมมาศ สั่งเร่งซ่อมแซม ‘อ้อน’ ขอเก็บแรงหนุนชาวสิงห์บุรี กลับไปเป็นแรงใจทำงาน
จากนั้น เวลา 14.30 น.พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะเดินทางมายังวัดเฉลิมมาศ เพื่อตรวจสภาพพนังกั้นน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณวัดเฉลิมมาศ โดยนายกรัฐมนตรี ได้สักการะพระพุทธรูปหลวงพ่อขาว พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอินทร์บุรีให้ความเคารพนับถือ ก่อนถวายเครื่องจตุปัจจัย พร้อมสนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดเฉลิมมาศ โดยเจ้าอาวาสมอบพระพุทธหลวงพ่อขาวจำลอง ให้กับนายกฯและรัฐมนตรี เป็นที่ระลึก จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังรายงานและตรวจดูพนังกั้นน้ำดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างระบบป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนอินทร์บุรี (ระยะที่ 1 – 5) ดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 – 2563 ใช้งบประมาณรวมทั้งสิ้น 998.07 ล้านบาท มีความยาวตลอดแนวคันกั้นน้ำ 9,516 เมตร พื้นที่ป้องกันอุทกภัย 7.34 ตารางกิโลเมตร มีระดับป้องกันน้ำ 15.60 เมตร ในช่วงฤดูฝนปี 2564 ได้มีกระแสน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะบริเวณรอยต่อของเขื่อนป้องกันตลิ่ง ทำให้น้ำไหลเข้ามาตามแนวรอยต่อ ส่งผลกระทบให้มีน้ำท่วมขังบริเวณริมตลิ่งหน้าวัดเฉลิมมาศ ทางเทศบาลตำบลอินทร์บุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 ตัว เพื่อสูบน้ำที่ท่วมขังบริเวณหน้าวัดเฉลิมมาศลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังออก และจะเร่งดำเนินการซ่อมแซมบริเวณรอยต่อของเขื่อนป้องกันตลิ่งที่ชำรุดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจรอยรั่ว และดำเนินการอุดให้แล้วเสร็จ พร้อมยืนยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญการดำเนินโครงการ โดยจะเร่งดำเนินโครงการสำคัญก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ลดความเดือดร้อนของประชาชน จะดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะทยอยดำเนินโครงการที่เหลือตามแผนงบประมาณที่จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ ขอให้บูรณาการการทำงานอย่างเป็นระบบ
ในส่วนของประชาชนที่ประสบอุทกภัย รัฐบาลมีความห่วงใย โดยได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหา ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยประสบปัญหาในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งน้ำท่วม ปัญหาเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ด้วยพลังความรัก พลังสนับสนุนของทุกคน ทำให้นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีกำลังใจเดินหน้าทำงานแก้ไขปัญหาต่อไปเพื่อประเทศชาติ และเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคน
“รัฐบาลจะเร่งรัดดำเนินการ ขอให้เข้าใจรัฐบาล ตรงไหนที่แก้ได้ก็แก้ก่อน ตรงไหนที่ต้องรองบประมาณ แผนงานก็ต้องทยอยทำ วันนี้เห็นระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่เริ่มนิ่ง หวังว่าจะลดความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรีรับเรื่องไปโดยต้องบูรณาการทุกหน่วยงานและข้ามจังหวัดด้วย เพราะพื้นที่ภาคกลางของเรา มีทั้งพระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง ที่เป็นเครือเดียวกัน เป็นห่วงทุกคนพื้นที่เศรษฐกิจก็มีอยู่นอกพนังกั้นน้ำ ซึ่งรัฐบาลจัดงบประมาณให้แล้ว 400 กว่าล้านบาทเพื่อทำพนังกั้นน้ำเพิ่มเติม โดยมี สทนช.ทำแผนร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ต้องดูทั้งเศรษฐกิจ น้ำท่วม โควิด ปัญหาเราเยอะแยะ ต้องแก้ไป นายกฯยืนยันว่าด้วยแรงสนับสนุนจากพวกเราวันนี้ นายกฯจะกลับไปและมีกำลังใจ ในการที่จะทำต่อไปให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆเป็นคำมั่นที่ให้ไว้ต่อกันระหว่างเราและภาคประชาชนทุกคน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบหมายให้กรม โยธาธิการและผังเมืองทำแผนก่อสร้างผนังกั้นน้ำบางแคใน เพิ่มอีก4 กิโลเมตรเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในระยะยาว ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปลายปีนี้ด้วยงบประมาณ400 ล้านบาท
