09.00 INDEX สัญญาณ การเมือง วิษณุ เครืองาม สัญญาณ กฎหมายลูก การเลือกตั้ง
พลันที่ นายวิษณุ เครืองาม คาดถึงแนวโน้มที่ร่างพรป.รับมือกับเนื้อหาใหม่ของรัฐธรรมนูญที่ผ่านการแก้ไขว่าจะเรียบร้อยได้ประ มาณเดือนกรกฎาคม 2565 แนวโน้มทางการเมืองก็เริ่มชัด
เป็นความชัดจากทางด้านของรัฐบาลซึ่งมาดหมายทีจะอยู่จนครบตามวาระ 4 ปีจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
นั่นก็คือ แนวโน้มและความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภาประมาณปลายปี 2565 และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นใกล้เคียงกับเดือนมีนาคม 2566 หรือหลังจากนั้น
เป็นความคาดหมายจากสัญญาณอันส่งผ่าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานด้านกฎหมาย และเชื่อกันว่าจะแทนความต้องการของรัฐบาลได้อย่างใกล้เคียง
กระนั้น หากรับฟังการวิเคราะห์และการฟันธงจากปีกทางด้านฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย
มีความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างน่าจะเกิดขึ้นภายในปลายปี 2564
ความแจ่มชัดของแนวโน้มและความเป็นไปได้ในการยุบสภาจะ สัมผัสได้อย่างเป็นจริงพลันที่เปิดสมัยประชุมรัฐสภาในพฤศจิกายน
มีความเชื่อมั่นที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงเกิดขึ้นและดำรงอยู่ระหว่างฝ่ายของรัฐบาลกับฝ่ายค้าน รัฐบาลเชื่อว่าจะอยู่ได้จนครบวาระ ฝ่าย ค้านเชื่อว่าไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น
ฝ่ายของรัฐบาลอาศัยความได้เปรียบในการควบคุมกลไกอำนาจรัฐ ฝ่ายค้านต้องการบ่อนเซาะสถานะความได้เปรียบนั้นลง
กระนั้น เมื่อมีการดำรงอยู่อย่างมี”กัมมันตะ”ของฝ่ายค้าน การชิงความได้เปรียบในสถานะที่กุมกลไกอำนาจรัฐของรัฐบาลก็ไม่แน่ ว่าจะเป็นความได้เปรียบในทางเป็นจริง
ตรงกันข้าม เวลาที่เหลืออยู่อีกประมาณ 1 ปีครึ่งอาจกลายเป็น จุดอ่อนและความบกพร่องของรัฐบาลก็เป็นได้
จากสถานการณ์โควิด จากสถานการณ์เศรษฐกิจและอุบัติภัย
หากมองจากด้านของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความสัมพันธ์อันสะท้อนรอยร้าวกับพรรคพลังประชารัฐไม่น่าจะเป็นผลดี หากมีการ ขยายไปยังพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่น่าจะเป็นผลดีเห็นได้จากจังหวะในการช่วงชิงคะแนนนิยมระหว่างกันและกัน
เมื่อปะทะเข้ากับการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ก็กยิ่งหนักหนาสาหัส
บางทีเวลาที่เหลืออยู่อาจมิได้เป็นความได้เปรียบอย่างแท้จริง
