09.00 INDEX บารมีการเมือง ของ ชวน หลีกภัย กับมรสุม จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
สถานการณ์การจัด “ผู้สมัคร” ไม่ลงตัวของพรรคประชาธิปัตย์ สะท้อนสถานะและความเป็นจริงของความนิยมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นอย่างดี
ถามว่าเหตุใดสถานการณ์เช่นนี้จึงไม่เกิดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลางและกทม.
ทำไมจึงเกิดขึ้นที่ “ภาคใต้” อย่างเป็น “ด้านหลัก”
นั่นก็คือ เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดพัทลุง นั่นก็คือ เกิดขึ้นในพื้นที่จัง หวัดพังงา และน่าเชื่อว่าสถานการณ์การจัดสรร “ผู้ลงพื้นที่” จะแพร่ระบาดเข้าไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ความหงุดหงิดจาก นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ เป็นสภาพที่เข้าใจได้ ความหงุดหงิดจาก นายราเมศ รัตนะเชวง เป็นสภาพที่เข้าใจได้ มิได้อยู๋เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด
เป็นทั้งสถานการณ์ที่ดีและสถานการณ์เลวร้ายทางการเมือง
ความเป็นจริงนับแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 เป็นต้นมาสะท้อนสภาวะ “ขาลง” ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์จากพรรค อันดับ 1 มาเป็นพรรคอันดับ 2
พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลางค่อยๆสูญเสีย คงแต่ เพียงภาคใต้และกรุงเทพมหานคร
แต่พอหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 และหลังรัฐประหาร เดือนพฤษภาคม 2557 การเข้าไปพัวพันกับการเมือง “ข้างถนน” ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสื่อมทรุด เสียเกียรติภูมิ
การเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 ต้องเสียพื้นที่กรุงเทพมหานคร ไปอย่างสิ้นเชิง คงเหลือเพียงพื้นที่ภาคใต้และต้องถูกรุกต่อเนื่อง
เป็นการรุกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง
ความขัดแย้งในพื้นที่พัทลุง ความขัดแย้งในพื้นที่พังงา และความเป็นไปได้ที่จะเกิดความขัดแย้งในพื้นที่สงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สะท้อนถึง “ก้อนเนื้อ” ที่เหลืออยู่ของพรรคประชาธิปัตย์
ตรวจสอบสภาวะ “ผู้นำ” ของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์
และเสี่ยงเป็นอย่างสูงที่อาจจะเกิดการแยกตัวเหมือนกรณี นายกรณ์ จาติกวณิช นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม
จำเป็นยิ่งที่ นายชวน หลีกภัย จะต้องฉาย “บารมี” ออกมา
