09.00 INDEX สถานะ เพื่อไทย ในภาคอีสาน กับพันธมิตร ในแบบ ”ก้าวไกล”
ผลสำรวจ ”นิด้าโพล” ที่ระบุว่าร้อยละ 81.14 ของสุ่มตัวอย่างเคยเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย แม้จะมาจาก 1,320 หน่วยตัวอย่าง
กระนั้น นี่คือผลสำรวจที่ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ จำเป็นต้องกัดฟันยอมรับ
เพราะมิได้ดำรงอยู่อย่างเลื่อนลอย หากเป็นตามความจริง
ความจริงของการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 อันถือได้ว่าเป็นพื้นฐานอย่างสำคัญจากชัยชนะของพรรคไทยรักไทยแม้จะเพิ่งก่อตั้งได้เพียงไม่ถึง 3 ปี
ประสานเข้ากับชัยชนะอย่างชนิดถล่มทลายซ้ำอีกคำรบหนึ่งถึง 377 จาก 500 เสียงในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548 อันเป็นชนวนสำคัญนำไปสู่การรัฐประหารเดือนกันยายน 2549
อันถือกันว่าเป็นเชื้อนำมาสู่รัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557
เพราะถึงจะมีทั้งรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 มีการปราบคนเสื้อแดงในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 แต่พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยก็ยังคงกำชัยในทางการเมือง
ชัยชนะของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ต่อเนื่องมายังพรรคเพื่อไทย แม้จะเป็นการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มีพื้นฐานมาจากภาคอีสาน ภาคเหนือเป็นสำคัญ
แม้จะมีการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐเพื่อหวังจะเข้าไปแย่งยื้อในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ
จำเป็นต้องมี 250 ส.ว.มาเป็นฐานในทางการเมืองสำคัญ
การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งหน้าหากมิใช่ปี 2565 ก็เป็นปี 25666 พรรคเพื่อไทยกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ เป็นยุทธศาสตร์ส่งคราบทุกพื้นที่ เป้าหมายก็เพื่อปิดสวิตช์ 250 ส.ว.เป็นด้านหลัก
หากพรรคเพื่อไทยสามารถกำชัยในภาคอีสาน ภาคเหนือ และ
ประสานเข้ากับพรรคพันธมิตรนั่นย่อมหมายถึง ”พลานุภาพ”
การต่อสู้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเหมือนกับพรรคเพื่อไทยจักต้องประหมัดกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ แต่ยิ่งใกล้ถึงเวลาแห่งการเลือกตั้งภูมิทัศน์ทางการเมืองยิ่งเปลี่ยน
มิได้สะท้อนว่าพรรคเพื่อไทยต่อสู้อย่างโดดเดี่ยว
ตรงกันข้าม จะเป็นการต่อสู้โดยมีพรรคก้าวไกลเป็นทะยานมาเหนือกว่าพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
และจะกลายเป็น ”พันธมิตร” กับพรรคเพื่อไทยจนได้ในที่สุด