ส.ส.วิโรจน์ เล่า ในฐานะคนเคยแบกเสลี่ยง ชี้ การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเรื่องปกติ

ส.ส.วิโรจน์ เล่า ในฐานะคนเคยแบกเสลี่ยง ชี้ การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมเรื่องปกติ

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม กรณีดราม่าระอุโซเชียล หลังทางองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (อบจ.) ได้ออกแถลงการณ์คณะกรรมการบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง ยกเลิกกิจกรรมขบวนอัญเชิญพระเกี้ยวในงานฟุตบอลประเพณีจุฬาฯ-ธรรมศาสตร์ เพื่อยุติการผลิตซ้ำธรรมเนียมปฏิบัติที่สะท้อนถึงความไม่เท่าเทียม และค่านิยมที่ไม่สอดคล้องกับยุคสมัย ไปเมื่อวันที่ 23 ต.ค.2564

ต่อมามีวิวาทะจากศิษย์เก่า แบ่งเป็นสองฝ่ายค้านและสนับสนุน  อาทินายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ที่คัดค้าน

ล่าสุด นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เขียนข้อความทางทวิตเตอร์ โดยแชร์ภาพการอัญเชิญพระเกี้ยว เมื่อปี 2515 หรือการอัญเชิญพระเกี้ยวในปี 2531 ซึ่งใช้รถยนต์ พร้อมระบุว่า การอัญเชิญพระเกี้ยวก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย บริบททางสังคม ในฐานะของคนที่เคยแบกเสลี่ยง คิดว่าการวิวัฒน์ทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องปกติ

Advertisement

“การอัญเชิญพระเกี้ยว ก็มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยอยู่แล้วนี่นา วัฒนธรรมที่ต้องการจะเคียงคู่ไปกับสังคม ก็ต้องปรับตัวตามบริบททางสังคม นี่คือความร่วมสมัย ที่เป็นปกติวิสัยของโลก ซึ่งผู้รับภารกิจทางวัฒนธรรม มีหน้าที่ที่จะตัดสินใจ ปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงนั้น”

“ในฐานะของคนที่เคยแบกเสลี่ยง ผมคิดว่าการวิวัฒน์ทางวัฒนธรรมเป็นเรื่องปกติ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยน ความเท่าเทียมกัน เป็นสัญญะที่มีคุณค่าอย่างมากในการสื่อสารทางสังคม ผู้รับภารกิจทางวัฒนธรรม ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตาม จะตรึง และขังให้วัฒนธรรมหยุดอยู่กับที่ได้อย่างไร”

“คนรุ่นก่อนมีหน้าที่ในการถ่ายทอดมุมมองด้านคุณค่าวัฒนธรรม ให้คนในรุ่นปัจจุบัน ได้รับรู้ และได้ไตร่ตรอง ส่วนขนบ และวิธีการในการสานต่อทางวัฒนธรรม จะเป็นอย่างไร ก็ต้องไว้วางใจ การตัดสินใจของคนในรุ่นปัจจุบัน ในฐานะที่เขาเป็นผู้รับภารกิจทางวัฒนธรรมของสังคม”

Advertisement

สำหรับนายวิโรจน์ เป็นศิษย์เก่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยจบจากภาควิชาวิศวกรรมยานยนต์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจบปริญญาโท บริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image