‘บิ๊กตู่’ แถลงพร้อมเปิดประเทศ 1 พ.ย. วอนม็อบอย่ารุนแรง ขอเห็นใจทำเต็มที่แล้วปมเชิญลิซ่า

‘บิ๊กตู่’ แถลงความพร้อมไทยเปิดประเทศ 1 พ.ย. ย้ำเตรียมมาตรการรองรับ วอนม็อบบนถนนอย่าสร้างความรุนแรง-ความเสียหายให้ประเทศ ห่วงนักท่องเที่ยวกระเจิง ชี้ปม ‘ลิซ่า’ ขอเห็นใจพยายามเต็มที่แล้ว

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 29 ตุลาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 17/2564 ว่าวันนี้คงทราบดีว่ามีการประชุม ศบค.ชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ประเด็นสำคัญจากการที่ตนได้ประกาศไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ได้กำหนดให้เป็นวันเริ่มเปิดประเทศ โดยมีชาวต่างชาติและชาวไทยที่เดินทางมาทางอากาศจาก 46 ประเทศในชั้นแรกนี้ และสามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจะมีหลายมาตรการในตรงนี้ด้วย ในส่วนความร่วมมือที่ตนต้องการจะได้รับจากประชาชน ทั้งสถานประกอบการ สมาคมต่างๆ มีอยู่ 4 เรื่องด้วยกัน 1.ทุกคน ทุกส่วน ทุกสมาคม ต้องช่วยกันระมัดระวังอย่างเต็มที่ และใช้มาตรการด้านสาธารณสุขที่กำหนดมาแล้วอย่างเต็มที่ ข้อสำคัญทุกคนต้องมีวินัยของตัวเองในการที่จะไม่เป็นผู้แพร่เชื้อในการระบาดออกไปอีก 2.ตามที่มีคำถามเรื่องมาตรการเดินทางเข้าในเส้นทางอื่น คงต้องกำหนดมาตรการเหล่านี้ก่อน ทั้งทางบกและทางน้ำ แต่ยังคงต้องมีการกักตัวเหมือนเช่นเดิม เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง เช่น ทุกวันนี้มีการจับตัวผู้เล็ดลอดเข้ามาตามแนวชายแดนอย่างเต็มที่ และดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สำหรับการค้าขายตามแนวชายแดนตนได้ให้นโยบายไปกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีการค้าขายสินค้าตามมติในส่วนอาเซียน โดยเฉพาะประเทศรอบบ้านตนได้ตัดสินใจจะทยอยเปิดให้ แต่ทั้งนี้ จะต้องเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย ไม่มีการเอาพ่อค้าแม่ค้า ลูกค้า มาเผชิญหน้ากันในตลาด โดยจะต้องมีพื้นที่ว่างตรงกลาง จะต้องมีมาตรการขนส่งสินค้าระหว่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อ 3.ด้านการแพทย์เราได้มีแผนเผชิญเหตุ เตรียมการให้พร้อมในการดูแลรักษา ทั้งโรงพยาบาลสนาม พื้นที่กักตัว จะต้องมีความพร้อมเช่นเดิมเผื่อกรณีที่มีสถานการณ์เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ได้สั่งการเรื่องยา ซึ่งได้มีการเร่งรัดสั่งยาโมลนูพิราเวียร์ไปแล้ว เราจำเป็นต้องเร่งสั่งการไปก่อนเพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกอยู่ท้ายแถวในการจะใช้ยาที่ผลิตมาใหม่ และวันนี้ตนได้ขอความร่วมมือจากต่างประเทศ ทั้งกลุ่มประเทศอาเซียนบวกสาม เอเชียใต้ ซึ่งหลายประเทศก็ร่วมกันผลิตยาใหม่ๆ ขึ้นมา ขณะที่ไทยเองก็กำลังวิจัยยาประเภทนี้อยู่ด้วยเช่นกัน แต่เราก็ต้องจองเอาไว้ก่อนเผื่อมีสถานการณ์จำเป็น ควบคู่กับการจัดหายาฟาวิพิราเวียร์ให้เพียงพอ นอกจากนี้ได้สั่งการให้เร่งรัดพัฒนาสารสกัดจากสมุนไพรไทยนอกจากฟ้าทะลายโจรแล้วมีพืชชนิดอื่นอีกหรือไม่ในการเพิ่มการดูแลรักษาในชั้นต้นได้ ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากที่หามาใช้เอง แต่ก็ต้องทำให้ปลอดภัย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า 4.เมื่อเราได้ประกาศให้ทั่วโลกทราบไปแล้ว ขอให้เข้าใจว่าไม่ใช่ว่านักท่องเที่ยวจะเข้ามาได้ทันที ในเวลาอันสั้นมากๆ จากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่ผ่านมามีคนเข้ามาประมาณ 40,000 กว่าคน ตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และวันนี้ขยายไปหลายพื้นที่ด้วยกัน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ดี เราจำเป็นต้องประกาศให้ชาวโลกรู้ และหลายๆ ประเทศก็กำลังดำเนินการตามเราอยู่ เป็นข้อมูลจากการประชุม ทั้งนี้ การที่จะเข้ามานั้นไม่ใช่ประกาศแล้วจะเข้ามาได้เลย แต่ละประเทศต้องประเมิน วางแผน อนุญาตให้คนของเขาออกมานอกประเทศเหมือนกัน เราก็ต้องศึกษามาตรการที่วางไว้ว่าสามารถจะปฏิบัติได้หรือไม่ การประกาศล่วงหน้ามีประโยชน์เพื่อให้ประเทศต่างๆ เหล่านั้นรวมถึงนักท่องเที่ยวได้วางแผนเตรียมการ ซึ่จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่นักท่องเที่ยวจะพิจารณาในช่วงการเดินทางปลายปีนี้ นี่ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของเรา เราคาดหวังอย่างนั้น ถือเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของตนออกไปในเรื่องการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพและปลอดภัย

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะขอร้องกันสำหรับผู้ที่เห็นต่างหรือผู้ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น หรือการสร้างความรุนแรงบนท้องถนน ขอความร่วมมือเถอะครับหยุดสร้างภาพความเสียหายต่อประเทศของเราในช่วงนี้เลย เพราะจะทำให้ประชาชนอื่นๆ เดือดร้อนและลำบากไปด้วย และนักท่องเที่ยวก็จะกังวลไม่กล้ามา ภาพเหล่านี้มันออกไปต่างประเทศด้วยทุกครั้ง ขอให้ระมัดระวังอย่างที่สุด

“วันนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผมและรัฐบาลคิดอยู่คือการทำให้ประชาชนของเราสามารถทำมาหากินได้อย่างปกติ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนห่วงโซ่ต่างๆ เป็นวัตถุ จะได้มีประกอบกิจการในห่วงโซ่ของเขาเพื่อซัพพอร์ตการเปิดประเทศได้แล้วจะได้เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับทุกกิจการ รวมถึงทางด้านการบิน เพราะเราได้มีการวางแผนการเปิดเที่ยวบินอีกหลายสิบประเทศเมื่อมีความพร้อม ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนฟื้นฟูการบินไทยด้วย” นายกฯกล่าว

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ที่พูดมาทั้งหมดนี้คือหลักการ คือนโยบายซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องประกาศออกมาให้มีความชัดเจนเกิดขึ้น มีรายละเอียดมากมาย มาตรการต่างๆ เข้าประเทศในแต่ละประเทศ แต่ละชนิด วิธีการปรับพื้นที่ปรับโซนสีต่างๆ เรามีความเป็นห่วงถึงการแพร่ระบาดในอดีตที่ผ่านมาก็ต้องนำกลับมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่งในการที่จะปรับสีพื้นที่ซึ่งทาง ศปก.จะนำไปพิจารณาหารือกันอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดสูงในหลายกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนที่อยากมีส่วนร่วมตรงนี้ต้องร่วมมือกันลงทะเบียนปรับปรุงความพร้อมสถานที่ของตัวเองให้สามารถเดินหน้าไปได้ และต้องร่วมรับผิดชอบไปพร้อมกันด้วย เรื่องเหล่านี้จะได้มีการสรุปโดยเร็วและจะแถลงให้ทราบต่อไป

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้นายกฯพูดถึงเรื่องของนโยบายและหลักการกว้างๆ นั่นคือการทำงานของนายกฯในการที่จะเปิดประเทศสร้างความเชื่อมั่นและทำให้คนไทยรอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจไปได้ไม่มากก็น้อย ส่วนราชการอื่นๆ รัฐบาลก็จะเติมไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก็คาดว่าทุกคนส่วนใหญ่จะได้รับประโยชน์จากมาตรการที่รัฐบาลทยอยออกไปตามลำดับ

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนถือว่าเราเป็นประเทศที่ดูแลประชาชนได้มากที่สุดในช่วงที่ผ่านมารองจากไม่กี่ประเทศที่เขามีเงินเยอะๆ ดังนั้น จึงขอให้ทราบว่าเราไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง สำหรับเรื่องการแสดงอะไรต่างๆ ทุกคนอาจจะให้ความสำคัญกับข่าวเรื่องที่จะมีการโชว์ของลิซ่า ก็ต้องเห็นใจ เราพยายามติดต่อมาระยะเวลานานพอสมควรแล้วก็ไปเคลียร์วันเวลาของเขา ของบริษัทเขาไป มันก็เคลียร์ไม่ออก ก็จำเป็นต้องเลื่อนออกไป มาไม่ได้ในช่วงนี้แต่วันหน้าเขาก็คงมีโอกาสมาอีก วันนี้ตนก็ให้แนวทางไปว่าให้มีการแสดงของคนต่างประเทศบ้างที่มาได้ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกมา นอกจากนี้ได้ให้ กกท.และ  กทท.ไปหาการแสดงที่เป็นวัฒนธรรมของเรา 5 ภาค มีหลายกิจกรรมที่สามารถแสดงสลับกันไปมาเพื่อให้คนตื่นเต้นถ่ายรูปและมีส่วนร่วมและจะได้ประทับใจในวัฒนธรรมของคนไทย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้โลกใบนี้เท่าที่ตนฟังจากการหารือหรือพูดคุยในเวทีประชุมอาเซียนมันมีอำนาจอยู่ 3 อำนาจ หนึ่งคือ อำนาจทางด้านความมั่นคง ก็รู้อยู่แล้วหลายประเทศมีความเข้มแข็งในเรื่องของกองทัพ ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ บางประเทศก็มีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ หรือบวกเรื่องพลังอำนาจไปด้วย แต่เราในฐานะที่เป็นประเทศที่ไม่ใหญ่โตมากนัก และเป็นประเทศที่มีความสามารถทางด้านการเกษตรและสำคัญที่สุดเรามีวัฒนธรรมประเพณีที่สวยงามที่น่าชื่นชมที่ต่างชาติให้ความสนใจ ตรงนี้แหละที่จะเป็นโอกาสของประเทศไทยเป็นพลังอำนาจใหม่คือด้านวัฒนธรรม ซึ่งเรามีพร้อมอยู่แล้ว และจากสถิติที่มีการประเมินประเทศไทยอยู่อันดับต้นๆ ของโลกในเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีไทย อัตลักษณ์ความเป็นไทย

“เพราะฉะนั้น อย่าทำลายกันเลยครับ ให้ทุกอย่างสามารถดำเนินการได้เพราะตรงนี้ถือเป็นอำนาจใหม่ที่เราสามารถทำได้ เราต้องหยิบจับอะไรที่เป็นความสามารถและพัฒนาต่อให้ดีขึ้นดีที่สุด ไม่ใช่เลิกหรือล้ม ไม่ใช่ไม่มี ไม่เช่นนั้นเราจะมีอะไรเหลืออยู่ถ้าเราไม่เข้มแข็งความมั่นคงทางทหารก็ไม่ได้ เศรษฐกิจเราก็ต้องพึ่งพาเขา เรื่องวัฒนธรรมประเพณีเป็นสิ่งที่เราขายได้ มีราคา ดังนั้น ต้องช่วยกัน คนไทยต้องช่วยกันทุกคน รัฐบาลทำอย่างยิ่งยวดเพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ ทุกคนมีส่วนร่วมในการพลิกโฉมประเทศไทย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image