‘ป.ป.ช.’ ออกประกาศแนวการทำงานสอดรับมาตรการผ่อนคลายรัฐบาล ยังเข้ม 7 จว.ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงนามในประกาศ เรื่อง แนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 37 ) ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมโรคให้สอดคล้องกับภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยที่มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และได้มีคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ 19/2564 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2564 ปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดจำแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์แบ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 7 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 38 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 23 จังหวัด และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 5 จังหวัด รวมถึงคำสั่งที่ 18/2564 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2564 กำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 17 จังหวัด ซึ่งได้ออกบังคับใช้ก่อนหน้านี้
เพื่อให้การปฏิบัติการราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยสอดคล้องกับข้อกำหนดและคำสั่งดังกล่าวข้างต้น จึงกำหนดแนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงาน ป.ป.ช. ดังนี้
1.ให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดจันทบุรี, สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตาก, สํานักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช, สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 9, สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนราธิวาส, สํานักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปัตตานี, สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดยะลา และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พิจารณาให้มีผู้มาปฏิบัติงานในหน่วยงานในแต่ละวันประมาณร้อยละ 70 และผู้ปฏิบัติงาน ณ ที่พักอาศัย ร้อยละ 30 โดยต้องไม่กระทบต่อภาระงานที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน
รวมทั้งต้องสนับสนุนการปฏิบัติงานและการประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และให้คำนึงถึงผู้ที่เดินทางมาทำงานโดยระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ผู้ที่ครอบครัวมีเด็ก หรือผู้สูงอายุตั้งแต่วันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2564 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ขณะที่สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด ซึ่งตั้งอยู่นอกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้บุคลากรมาปฏิบัติงานตามวันและเวลาราชการปกติร้อยละ 100 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป
2.สำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดในแต่ละเขตพื้นที่สถานการณ์ กรณีการจัดประชุม หรือกิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มกันของบุคคลไม่เกินกว่าจำนวนที่กำหนดสามารถดำเนินการได้ตามปกติ หากเกินกว่าจำนวนที่กำหนดให้ขออนุญาตต่อเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ตรวจราชการสำนักงาน ป.ป.ช. หรือผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่กำกับดูแลและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ การกำหนดจำนวนบุคคลให้จำแนกตามเขตพื้นที่สถานการณ์ ดังนี้ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดไม่เกิน 50 คน, ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดไม่เกิน 200 คน, ในพื้นที่ควบคุมไม่เกิน 500 คน,ในพื้นที่เฝ้าระวังสูงไม่เกิน 1,000 คน, ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวสามารถดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
3.นอกจากนี้ ให้ถือปฏิบัติตามประกาศสำนักงาน ป.ป.ช. เรื่องแนวทางการปฏิบัติตนของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงาน ป.ป.ช. อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ รวมทั้งมาตรการในการป้องกันและควบคุมโรคเชื้อโควิด-19 ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ได้แจ้งเวียนให้ทราบแล้วอย่างเคร่งครัด
4.กรณีมีข้อความใดในประกาศฉบับนี้ขัด หรือแย้งกับประกาศหรือคำสั่งจังหวัดนั้นๆ ให้ถือปฏิบัติตามประกาศ หรือคำสั่งดังกล่าว