‘เทพไท’ บอกสนุกแน่ๆ ‘นิโรธ’ เป็นปธ.วิปฯ ชี้คนเหมาะ ต้องเป็นที่ยอมรับ ใจเย็น ไม่สุดขั้ว

วันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 - 17:18 น.

‘เทพไท’ บอก สนุกแน่ ‘นิโรธ’ เป็นปธ.วิปรัฐบาล ชี้คนเหมาะสม ต้องเป็นที่ยอมรับ ใจเย็น ไม่สุดขั้ว

กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สวุรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พรรคจะเสนอชื่อ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลแทน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ท่ามกลางกระแสข่าวว่า ส.ส.จำนวนไม่ให้การยอมรับนั้น

ย้อนอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (4 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้ทวิตข้อความแสดงความเห็นถึงกรณีดังกล่าว โดยระบุว่า “งานนี้สนุก โปรดติดตามกันต่อไป”

ทั้งนี้ นายเทพไท ได้โพสต์เขียนถึงคุณสมบัติของผู้จะมาทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาลผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า

“ช่วงนี้มีการพูดถึงตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ ว่าจะมีใครมาทำหน้าที่แทนคุณวิรัช รัตนเศรษฐ์ ประธานวิปรัฐบาลคนเก่า ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงจำเป็นต้องหาผู้เหมาะสม มาเป็นประธานวิปรัฐบาลคนต่อไป ซึ่งเป็นหน้าที่ของพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล จะต้องสรรหาบุคคลภายในพรรคที่เหมาะสม เข้ามารับตำแหน่งโดยเร็ว เพราะตำแหน่งประธานวิปรัฐบาลเป็นตำแหน่งที่สำคัญ ต้องคุมเกมการเมืองให้กับรัฐบาล ในการประชุมสภาแทนราษฎรและการประชุมร่วมรัฐสภาด้วย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสรรหาบุคคลที่มีความเหมาะสม ทั้งวัยวุฒิคุณวุฒิ และมีวุฒิภาวะ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะในพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ควรจะมีประสบการณ์ เป็นส.ส.มานานพอสมควร ใจเย็น สุภาพเรียบร้อย มีความประนีประนอมสูง ไม่สุดขั้วจนเกินไป ต้องใช้ศาสตร์และศิลป์ในการทำหน้าที่ ให้เป็นที่ยอมรับของสมาชิกรัฐสภา

ในฐานะที่เคยเป็นสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้วหลายสมัย ได้เห็นการทำหน้าที่ประธานวิปรัฐบาล ที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ เช่น นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายวิทยาแก้วภารดัย และในตอนพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ก็มีประธานวิปรัฐบาลอย่าง นายวิทยา บุรณศิริ นายอำนวย คลังผา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีบุคลิกประนีประนอม ทำงานแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยทั้งนั้น เพราะต้องทำงานร่วมกับหลายฝ่าย จึงจำเป็นต้องแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่างในการประสานงานกัน เพื่อให้บรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นไปได้อย่างราบรื่น”