‘เรืองไกร’ ร้อง กกต.สอบ ‘หมอเลี้ยบ’ เป็น ผอ.พท.ได้หรือไม่ มีเหตุยุบ พท.หรือไม่

‘เรืองไกร’ ร้อง กกต.สอบ ‘หมอเลี้ยบ’ เป็น ผอ.พท.ได้หรือไม่ มีเหตุยุบ พท.หรือไม่

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กล่าวว่า การประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ขอนแก่น เมื่อ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค พท.ขึ้นเวทีปราศรัยด้วยนั้น กรณีดังกล่าวทำให้สงสัยว่า หมอเลี้ยบจะเป็นผู้อำนวยการพรรค พท.ได้หรือไม่ ตนจึงได้ตรวจสอบพบว่า นพ.สุรพงษ์เคยต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีความผิดเกี่ยวกับหน้าที่ราชการมาแล้ว 2 คดีคือ คดีหมายเลขแดงที่ อม.91/2559 วันที่ 4 สิงหาคม 2559 ซึ่งศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี แต่รอการลงโทษไว้ 1 ปี และคดีหมายเลขแดงที่ อม.107/2559 วันที่ 25 สิงหาคม 2559 ซึ่งศาลพิพากษาว่ามีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 ให้จำคุก 1 ปี

นายเรืองไกรกล่าวว่า ตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 70 หัวหน้าพรรคสามารถตั้งสมาชิกเป็นผู้อำนวยการพรรคได้ ตั้งแล้วต้องรายงานให้คณะกรรมการบริหารพรรคทราบ แต่หากสรุปตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 12 บุคคลที่ห้ามสมัครเป็นสมาชิก เช่น (9) บุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกและพ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี หรือ (12) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฯลฯ ดังนั้น นพ.สุรพงษ์ จึงน่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็นสมาชิกพรรค พท. หรือผู้อำนวยการพรรค พท. ดังนั้น การปรากฏตัวและปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายของนายสุรพงษ์บนเวทีประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมทางการเมืองจึงน่าจะมีปัญหาตามมาว่ามีการกระทำอันฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ในเฟซบุ๊กพรรค พท.ได้ลงบทความของ นพ.สุรพงษ์ไว้ด้วย ซึ่งวันดังกล่าวก็มีการถ่ายทอดการปราศรัยบนเวทีการประชุมใหญ่ด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริหารพรรค พท.ชุดที่มีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ยังเป็นหัวหน้าพรรค พท. ในวันที่ 28 ตุลาคม เมื่อนายสมพงษ์ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค และมีการเลือกนายชลน่าน ศรีแก้ว เป็นหัวหน้าพรรค พท. กิจกรรมทางการเมืองหลังจากวันที่ 28 ตุลาคม จึงควรอยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริการพรรคเพื่อไทยชุดใหม่

นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า แต่เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ในเฟซบุ๊กพรรค พท.ยังได้นำบทความ นพ.สุรพงษ์ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยมาลงไว้ อันทำให้เข้าใจได้ว่า นายสุรพงษ์ยังคงเป็นผู้อำนวยการพรรค พท.ต่อมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ตามข้อบังคับพรรค พท.ข้อ 72 การที่ นพ.สุรพงษ์ยังเป็นผู้อำนวยการพรรค พท.อยู่นั้น จึงมีปัญหาว่า เป็นได้หรือไม่ ถ้าเป็นไม่ได้จะถือเป็นคนอื่นหรือผู้ใดที่มิใช่สมาชิกตามความใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 หรือมาตรา 29 หรือไม่

Advertisement

“จากข้อเท็จจริงของ นพ.สุรพงษ์ ในฐานะผู้อำนวยการพรรค พท.นั้น จึงมีเหตุต้องขอให้ กกต.ตรวจสอบว่า นายสุรพงษ์เป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย หรือสมาชิกพรรค พท.ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้จะมีการฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่ ถ้ามีการฝ่าฝืนจะถือเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคเพื่อไทย และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ตามมาตรา 92 หรือไม่ และ กกต.ต้องดำเนินคดีอาญาตาม มาตรา 108 หรือไม่ ทั้งนี้ พรุ่งนี้ วันที่ 8 พฤศจิกายน เวลา 10.00 น. จะไปร้องให้ กกต.ตรวจสอบกรณีดังกล่าวต่อไป” นายเรืองไกรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image