‘เพื่อไทย’ รับข้อเสนอกลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง พร้อมตั้ง กก.ทำงานคู่ขนานภาค ปชช.-เตรียมชงสภาตั้ง กมธ.วิสามัญ สอบกระบวนใช้ กม.ที่ล้นเกิน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 พฤศจิกายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มพลเมืองเพื่อผู้ต้องขังทางการเมืองยื่นหนังสือถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. นำโดยนายรัศน์ ชาลีจันทร์ อดีตข้าราชการกระทรวงต่างประเทศ นายสุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาองค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติฮิวแมนไรท์วอทซ์ นักวิชาการ นักกิจกรรมทางการเมือง รวมถึงนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือลูกนัท โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค พท. และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้อำนวยการพรรค พท. ร่วมรับหนังสือ
ทั้งนี้ ทางกลุ่มได้ออกแถลงการณ์ขอให้ผลักดันขอให้ผู้ต้องขังทางการเมืองได้รับสิทธิประกันตัว เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ต้องขังทางการเมืองที่เป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษาทนายความ ศิลปิน นักการเมือง พยาบาล แม่ค้า และราษฎร ถูกดำเนินคดีและจับกุมคุมขังจากการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 และกฎหมายอาญามาตรา 116 รวมถึงพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้มีคดีกว่า 159 คดีที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 โดยผู้ต้องขังทั้งหมดยังไม่ได้รับการไต่สวนแต่ก็กลับถูกคุมขังก่อนพิจารณาคดีโดยไม่ได้รับสิทธิประกันตัว
พรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนประชาชน ต้องเป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน จึงเรียกร้องให้พรรคการเมืองผลักดันให้เกิดความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม ผู้ต้องขังทางการเมืองทุกคนต้องได้รับสิทธิการประกันตัวตามสิทธิขั้นพื้นฐาน และได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ซึ่งข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมศาลตุลาการยังคงความสง่างาม ไม่ตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ประชาชนจะจับตาเฝ้าดูผลการเรียกร้องครั้งนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นการตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ขอขอบคุณอย่างยิ่งที่ทางกลุ่มได้ให้โอกาสพรรค พท. เราพร้อมรับข้อเสนอของกลุ่มไปหาแนวทางแก้ปัญหาโดยนำเข้าสู่การแก้ไขตามระบอบประชาธิปไตย สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนทุกคน ในฐานะหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคที่มารับเรื่องในวันนี้ ถือว่าเราได้รับโอกาสตามเจตนารมณ์ที่เราได้ประกาศเอาไว้ ที่ผ่านมามีคนบอกว่าเราพูดเพื่อสร้างวาทกรรมเท่านั้น แต่วันนี้ปรากฏชัดโดยทุกท่านได้ให้โอกาสพรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรค พท.จะดำเนินการ 3 ข้อ 1.พรรค พท.จะตั้งคณะทำงานขึ้นมาชุดหนึ่ง โดยใช้ชื่อเหมือนกลุ่มของพวกท่าน คือคณะทำงานเพื่อผู้ต้องขังทางการเมือง เพื่อทำงานคู่ขนานไปกับกลุ่มพวกท่าน 2.ในวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ เราจะเสนอญัตติเพื่อตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณา ศึกษา ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการบังคับใช้กฎหมายที่ล้นเกิน และขัดหลักนิติธรรม ต่อผู้ต้องขังทางการเมือง โดยจะมีการดึงเอาตัวแทนของภาคประชาชนเข้ามาเป็น กมธ.ด้วยในสัดส่วนร้อยละ 20 ของโควต้าที่พรรค พท.ได้รับ ซึ่งผลที่ได้รับจากการศึกษาจะเป็นหลักประกันโดยรวม เพื่อทำไปทำงานขับเคลื่อนระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร และ 3.สภาต้องมีข้อสรุปที่เกี่ยวข้องกับพันธสัญญาที่เรามากับนานาประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามหลักสากล
จากนั้นเวลา 11.50 น. น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า เราเข้าใจเจตนารมณ์ของผู้ยื่น ในฐานะ ส.ส.ต้องรับฟังข้อเสนอ รับทราบปัญหาความเดือดร้อน และรับรู้ถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด ทราบว่าขณะนี้มีผู้ถูกคุมขังเพราะเห็นต่างจากรัฐไม่ต่ำกว่า 15 คน โดนคดีไม่ต่ำกว่า 500 คดี บางคนโดนหลายคดี ซึ่งเราไม่นิ่งนอนใจ โดยเราจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปดำเนินการต่อ อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่ากังวลใจว่ารัฐบาลไม่หยิบยกกรณีสิทธิการประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง ดังนั้น ขอย้ำเตือนรัฐบาลว่าเสียงของประชาชนมีคุณค่า มีความสำคญ รัฐบาลจะมองข้ามไม่ได้
ด้านนายประเสริฐกล่าวว่า พรรค พท.ได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากกลุ่มพลเมือง เราในฐานะพรรคการเมืองที่มี ส.ส.มากที่สุดในสภา โดยหลักๆ ของข้อเรียกร้องคือการได้รับสิทธิประกันตัวของผู้ต้องขังทางการเมือง และผลักดันแก้ไขกฎหหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งพันธกรณี ปฏิญญาและอนุสัญญาต่าๆ ในเวทีสภา เพื่อให้การใช้กฎหมายสอดคล้องหลักนิติรัฐ นิติธรรม
นายประเสริฐกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้สภาตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อศึกษาเรื่องดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาประชาชนรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม เกิดข้อกังขา และในหลายๆ กรณีเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเสียเอง จึงอยากให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านร่วมกันเแก้ไข
นายประเสริฐกล่าวต่อว่า ส่วนการปฏิรูปกฎหมายตำรวจขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ในชั้นกรรมาธิการยังไม่แล้วเสร็จ โดยพิจารณาตั้งแต่ต้นปี 64 จึงอยากให้รัฐบาลและกรรมาธิการเร่งพิจารณาให้แล้วสร็จโดยเร็ว เพราะที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลไม่จริงใจ และเหตุการณ์ล่วงเลยมายาวนานแต่กฎหมายกลับยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ดังนั้น อยากให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ต่อจากนั้น ทางกลุ่มพลเมืองฯได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และกรรมการบริหารพรรค ก.ก. เพื่อให้พรรคก้าวไกลเป็นอีกหนึ่งแรงผักดัน เพื่อเรียกร้องให้ผู้ต้องขังทางการเมืองได้รับสิทธิประกันตัว
