ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : ใจร้าย!? โดย จำลอง ดอกปิก
รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เผชิญความเสี่ยง
เปราะบาง ไม่มั่นคง ว่าจะได้ไปต่อยาวๆ ทะลุเป้าหมาย อยู่ครบเทอม 4 ปีหรือไม่
เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายใน ระหว่างทำเนียบรัฐบาล กับขุมกำลังใหญ่ พรรคพลังประชารัฐ ยังคาราคาซัง
คำให้สัมภาษณ์ล่าสุด ของ พล.อ.ประยุทธ์
ทำนอง รู้ความเคลื่อนไหว แผนโค่นรัฐบาล ด้วยการไม่โหวตผ่านกฎหมายสำคัญ เพื่อล้มรัฐบาล
พร้อมกับประณาม ใจร้าย หากคิดอย่างนี้
คำพูดดังกล่าวไม่เพียงแต่เท่ากับยอมรับปัญหาแตกร้าว ยังดำรงคงอยู่ ไม่คลี่คลายแม้แต่น้อยเท่านั้น
หากยังต้องการฟ้องต่อสาธารณะ ชี้เป้าให้จับตา กดดัน
ใครก็ตาม ที่ไม่ยอมให้ออกกฎหมายสำคัญ
โดยอ้างถึงความชอบธรรม ของรัฐบาลที่จำเป็นต้องมีเครื่องมือบริหาร พัฒนาประเทศ ที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะมิ่งมิตรคู่กรณี ในพรรคพลังประชารัฐ ต้องรับชอบ โหวตผ่านร่างกฎหมายที่ผลักดันเข้าสภา โดยรัฐบาลให้จงได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบความสำเร็จ ในการใช้กลยุทธ์ รู้ทัน อ่านเกมออกอย่างนี้ ฝ่าปัญหามาได้ครั้งหนึ่งแล้ว
ก่อนหน้านี้เมื่อ 1 กันยายน วันอภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่สอง
ก็ได้ให้สัมภาษณ์คล้ายๆ กัน ว่าวันนี้มีข่าว 2-3 เรื่อง คือการโหวตล้มนายกฯ หากเป็นความจริง ถือว่าไม่ใช่สุภาพบุรุษ ทำไปเพื่ออะไร ผมเข้ามาทำงานก็ทำงาน 100% 2 ปล่อยข่าวว่าจะยุบสภา และ 3 มีการแอบอ้างเรื่องเปลี่ยนตัวนายกฯ
ปัญหาวันนั้น จบด้วยดี ถึงคะแนนเสียงโหวต ในญัตติไม่ไว้วางใจในเวลาต่อมา ไม่สวยงามนักก็ตาม
แต่ถือว่า ‘บิ๊กตู่’ สอบผ่าน ตามกติกา อย่างไม่ยากเย็นนัก
ที่เป็นเช่นนั้น อาจเนื่องจากขณะนั้นผู้ที่นายกฯเอาปูนกาหัว เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา
ยึดโยงด้วยตำแหน่งรัฐมนตรี
แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
ความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ขาดผึงสะบั้น
นับแต่วันปลดพ้นเก้าอี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มิได้เป็นลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีอีกต่อไป
ไม่ต้องเกรงอก เกรงใจอีกต่อไป
เยื่อใยอาจมีอยู่บ้าง แต่ก็ลดน้อยถอยลงทุกวัน เมื่อถูกรุกไล่ บี้บด
ปลดพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีไม่พอ แผนการล้างไพ่กรรมการบริหารพรรคที่มีเป้าหมายสำคัญ อยู่ที่ ธรรมนัส พรหมเผ่า
มีหรือคนอย่างเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ไร้เดียงสา ไม่รู้ว่ามาจากไหน
และที่ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่การลดราวาศอก แต่อย่างใด
เป็นเพราะการมีเสาค้ำอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต่างหาก ที่ยืนยันเสียงแข็ง ไม่ปรับเปลี่ยนเด็ดขาด
ไม่เอาธรรมนัสจะเอาใคร
ฉะนั้น หากใจดีไม่คิดทำอะไร ให้มีผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล
คงเป็นเพราะธรรมนัสเกรงอกเกรงใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มากกว่า
เนื่องจากเมื่อใดก็ตามรัฐบาลล่มสลาย
‘บิ๊กป้อม’ ก็ต้องไปด้วย
นี่ไม่ใช่การยุแยงตะแคงรั่ว แต่เป็นความจริง
ความจริงที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขาลอย เสียงดัง สั่งได้เฉพาะใน ครม. แต่ในสภาบังคับ ส.ส.ไม่ได้
โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ใต้ร่มเงา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
คนคุมเสียงตัวจริง มีกองกำลัง ส.ส. เป็นอาวุธหนักต่อรอง
ที่แม้แต่ พล.อ.ก็ยังหวั่นไหว
ได้แต่ตัดพ้อ-เมื่อชะตากรรมรัฐบาล ไม่ได้อยู่ในมือตัวเอง
แต่หากควบคุมโดย ส.ส. กำหนดโดยสภา ที่บังคับไม่ได้ ไม่รู้อนาคตจักเป็นเช่นใด