ส.ส.เชียงใหม่ พท. จี้ รบ. เร่งฉีดวัคซีน-เพิ่มการตรวจแจกเอทีเค หลังโควิดระบาดหนัก พร้อมเตรียมชงร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสภา หวังช่วยแก้ปัญหา PM 2.5 เป็นรูปธรรม
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 พ.ย. ที่รัฐสภา ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการพรรค นายวิทยา ทรงคำ นายศรีเรศ โกฎคำลือ และน.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ร่วมกันแถลงถึงกรณีการแก้ปัญหาโควิด-19 และการท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ รวมถึงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5
โดยนายจุลพันธ์ กล่าวว่า ปัญหาใน จ.เชียงใหม่ ขณะนี้ไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ เพราะถูกปัญหาเศรษฐกิจมากดทับเพิ่ม ราคาข้าว และสินค้าเกษตรตกต่ำจนอยู่ไม่ได้ แม้จะมีการประกาศเปิดประเทศ แต่สถานการณ์การท่องเที่ยวยังไม่ดีขึ้น ชีวิตของคนเชียงใหม่ตกอยู่ในความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาโควิด-19 ที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับสองของประเทศ และไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราเรียกร้องเรื่องการฉีดวัคซีน และเพิ่มจุดตรวจเชื้อมาตลอด แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ครอบคลุม วันนี้จำนวนผู้ป่วยใน จ.เชียงใหม่ กำลังจะล้นเกินกำลังที่จังหวัดจะรับได้ แต่ภาครัฐยังไม่ดำเนินการใดๆให้เป็นรูปธรรม
ด้านนางทัศนีย์ กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ของ จ.เชียงใหม่ ในเดือน พฤศจิกายนสูงมากกว่าเดือนกันยายนถึง 9 เท่า เพราะเพียงแค่เดือนเดียวมีผู้ติดเชื้อ 12,000 ราย แม้ว่าจะมีประชาชนฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว 77.55% แต่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่สองเพียง 39.76% เท่านั้น จึงต้องมีการระดมฉีดให้มากขึ้น และเพิ่มสถานที่ฉีดแบบวอร์คอินให้กับประชาชนทั่วไป รวมถึงแจกชุดตรวจเอทีเคแบบวอร์คอินด้วยเช่นกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และสร้างความปลอดภัยด้านสาธารณสุข ตอนนี้ จ.เชียงใหม่ ประชาชนแทบไม่มีรายได้เข้ากระเป๋า และหากเราหยุดโควิด-19 ไม่ได้ อย่าหวังว่าการท่องเที่ยวจะฟื้นตัว
ขณะที่ นายจักรพล กล่าวว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาของประเทศมาตลอด โดยเฉพาะพื้นที่ จ.เชียงใหม่ วันนี้ได้ยินว่ากทม. ประกาศเตรียมรับมือปัญหา PM 2.5 ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงหน้าหนาว พรรคพท.ได้ตระหนักถึงลมหายใจที่บริสุทธิ์อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน โดยพรรคพยายามผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของอากาศมาตลอด แต่เห็นได้ว่างบประมาณ 63-64 ถูกละเลย รวมทั้งในอดีตเคยมีการเสนอร่างกฎหมายตามขั้นตอนรัฐสภาแล้ว 2 ฉบับ แต่ก็ถูกตีตกทั้งร่างที่ลงชื่อเสนอโดยประชาชน และเสนอโดยพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับร่างของพรรคเพื่อไทย ได้พยายามปรับปรุงหลังมีการท้วงติงว่าร่างกฎหมายนี้อาจไปเกี่ยวข้องกับกฎหมายการเงิน ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงแล้ว และจะเสนอเข้าสู่สภาต่อไป เราหวังว่าจะได้รับการผลักดันในสภาด้วย เราอยากเห็นแนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม และอยากให้รัฐบาลเตรียมรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า
