นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น กล่าวถึงกรณีลูกชายพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ให้สถานที่จดทะเบียนตั้งบริษัทในค่ายทหารว่า ภาคีเครือข่ายฯได้มีการออกแถลงการณ์จุดยืนและให้ความเห็นว่าให้ผู้มีหน้าที่ตรวจสอบว่ากรณีดังกล่าวนั้นถูกหรือผิด โดยไม่มีการแทรกแซง เป็นการกระทำเอื้อต่อเครือญาติหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จะรับเรื่องดังกล่าวไปตรวจสอบ
“เรื่องจะผิดหรือไม่คงต้องดูตามข้อเท็จจริง และมองรอบด้านทั้งในเรื่องความเหมาะสม และข้อกังขาของสังคม แม้ไม่ผิดแต่ไม่เหมาะสม ผู้เกี่ยวข้องก็ควรแก้ไขอย่างไรหรือไม่ต่อไปให้ถูกต้องเหมาะสม ตอนนี้ภาคีเครือข่ายฯก็คงติดตามดูหลักการพิจารณาและปรับปรุงอย่างไรที่ลดข้อกังขาของสังคม “ นายประมนต์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถึงหลักการในการจดตั้งบริษัทใหม่และใช้สถานที่ราชการในการจดตั้งบริษัท ผู้บริหารระดับสูงของกรมฯได้ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าวเมื่อเป็นกระแสความวิตกของสังคม ก็ได้ให้ฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบและชี้แจงว่า การจัดตั้งบริษัทนั้นไม่เป็นโมฆะ เพราะมีเลขที่ในการติดต่อ และเจ้าของบ้านยินยอม
“บริษัทที่เป็นปัญหาคือที่อยู่จดตั้งไม่สามารถติดต่อได้ เพราะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องการส่งงบการเงิน ไม่มีการร้องจากเจ้าของบ้านหรือสถานที่นั้นมาร้องไม่ยินยอมให้ใช้เป็นสถานที่ตั้งบริษัท อย่างเช่นตอนนี้ผู้ประกอบการต่างชาติที่จ้างสำนักงานตรวจสอบบัญชีในไทยก็จะใช้สถานที่สำนักงานในการจดแจ้งต่อทางการ บางสำนักงานมีถึง 4-5 บริษัท ถ้าจะโมฆะก็เมื่อผิดเรื่องเจ้าของที่ไม่ยินยอม ไม่จัดส่งงบการเงินตามกฎหมาย และปล่อยให้บริษัทร้าง4-5ปี ก็จะถูกเพิกถอน แต่เป็นเรื่องที่แยกออกจากเรื่องจรรยาบรรณที่ถูกกังขาของสังคม “
