09.00 INDEX การขับเคี่ยว 2 พรรค ยักษ์ใหญ่ ระหว่าง เพื่อไทย พลังประชารัฐ
ไม่ว่าคำประกาศยึดครอง 132 เขตจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าเป้าหมาย 235 แลนด์สไลด์จากพรรคเพื่อไทย
สอดรับกับการประกาศและบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน
นั่นก็คือ ระบบเลือกตั้งจากที่เคยใช้บัตรใบเดียวกับ 350 เขต 150 บัญชีรายชื่อ ก็เปลี่ยนไปสู่บัตร 2 ใบพร้อมกับ 400 เขตและ 100 บัญชีรายชื่อโดยอัตโนมัติ
ทำให้กระบวนการเลือกตั้งไม่เพียงแต่ใกล้เคียงกับเมื่อเดือน กรกฎาคม 2554 ใกล้เคียงกับเมื่อเดือนธันวาคม 2550 หากแต่ถอด พิมพ์เขียวมาจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2544
เท่ากับทำให้ความฝันลึกๆอันมาจากพรรคพลังประชารัฐ พรรค ประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย เริ่มใกล้กับความเป็นจริงยิ่งขึ้น
เท่ากับ 3 พรรคการเมืองนี้มีความสุขกับ “ความฝัน” ร่วมกัน
เพียงแต่เมื่อเผชิญกับความเป็นจริงจะทำให้ดำเนินไปในท่วงทำนองแบบ “นอนเตียงเดียวกัน” แต่ “ฝันคนละเรื่อง” หรือไม่
หากเริ่มต้นจากสภาพความเป็นจริงของการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มีแต่พรรคเพื่อไทยซึ่งได้รับเลือก 136 และพรรคพลังประชารัฐซึ่งได้รับเลือก 115 เท่านั้นที่อยู่ในฐานะคู่แข่ง
กระนั้น ก็จะมองข้ามรากฐานของพรรคอนาคตใหม่ที่ได้ 80 พรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ 52 พรรคภูมิใจไทยที่ได้ 51 มิได้
แท้จริงแล้วในสนามของการเลือกตั้งครั้งหน้าการต่อสู้อันเข้มข้นจึงอยู่ที่พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นด้านหลัก
แม้ด้านหนึ่งการยุบพรรคอนาคตใหม่อาจทำให้จำนวนของ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย เพิ่มขึ้น
กระนั้น การเปลี่ยนแปลงที่มีอัตราเร่งก็มิอาจมองข้าม “ก้าวไกล”
คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 อาจมาพร้อมกับความเชื่อต้องการความสงบ จบที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อันทำให้พรรคพลังประชารัฐคือความหวังหนึ่ง
เป็นความหวังที่มี 250 ส.ว.เป็นฐานอย่างทรงความหมาย
แต่จากเดือนมีนาคม 2562 มีการเปลี่ยนแปลงมากมายที่ทำให้ความขลังของคำขวัญ “ต้องการความสงบ จบที่ ลุงตู่” เสื่อมลง
จึงไม่แน่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยังเป็น “ความหวัง”