โฆษก รบ.เผย ‘บิ๊กตู่’ พอใจตัวเลขส่งออก ต.ค.แตะ 7.5 แสนล้าน เร่งดันส่งออก หลัง ศก.โลกฟื้นตัว

โฆษก รบ.เผย ‘บิ๊กตู่’ พอใจตัวเลขส่งออก ต.ค.แตะ 7.5 แสนล้าน เร่ง ‘ทีมไทยแลนด์’ ดันส่งออก หลัง ศก.โลกฟื้นตัว

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงาน ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนตุลาคม 2564 โดยตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือนตุลาคม 2564 มีมูลค่า 750,016 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.4 และหากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 12.2 สะท้อนภาพการส่งออกของไทยยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้มีคำสั่งซื้อจากประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการบริหารนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีการเติบโตทั้งในสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การส่งออก 10 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 15.7 เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 19.6 ยืนยันภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงของไทยกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

นายธนกรกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยในปี 2564 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น 1.ทิศทางการค้าโลกขยายตัวต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 4 2.ค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่า เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันด้านราคาให้กับสินค้าไทย 3.การผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลายประเทศมีการเปิดประเทศมากขึ้น ส่งผลดีต่อภาคการค้า 4.ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ช่วยสนับสนุนการส่งออกสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน อาทิ เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์ และ 5.มูลค่าการส่งออกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การค้าชายแดนเริ่มคลี่คลาย โดยด่านการค้าสำคัญจะกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง

นายธนกรกล่าวว่า สำหรับกลุ่มสินค้าที่ขยายตัวดี ได้แก่ 1.สินค้าเกษตรและอาหาร โดยเฉพาะข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางพารา น้ำมันปาล์ม น้ำตาลทราย อาหารสัตว์เลี้ยง และสิ่งปรุงรสอาหาร 2.สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน (Work from Home) และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ และส่วนประกอบ เตาอบไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องโทรศัพท์และอุปกรณ์ 3.สินค้าเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด เช่น เครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์เภสัชภัณฑ์ 4.สินค้าขั้นกลาง หรือสินค้าวัตถุดิบ เช่น เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ เม็ดพลาสติก ยางยานพาหนะ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และ 5.สินค้าคงทน หรือสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีราคาสูง เช่น รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และอัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ)

Advertisement

นายธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้ “ทีมไทยแลนด์” ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการต่างประเทศ และส่วนราชการไทยทุกแห่ง เร่งขับเคลื่อนสำหรับแผนส่งเสริมการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี ตามยุทธศาสตร์เพื่อส่งเสริมมาตรการการส่งออกในระยะถัดไป เช่น การผลักดันการส่งออกมันสำปะหลังไทยให้มีคุณภาพอันดับ 1 ของโลก ภายใต้ยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยปี 2564-2567 เร่งรัดใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP หลังจากที่ไทยยื่นให้สัตยาบันแล้ว และ FTA ไทยกับคู่ค้าสำคัญ ตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีในการรักษาตลาดเดิม สร้างตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่าที่เสียไป เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าผลักดันการส่งออกของไทยในตลาดต่างประเทศ เพื่อหลังเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image