โทนี ชี้ กต.ควรไปสิงคโปร์มากกว่าพม่า ถามเลย ติดอะไรทำไมไม่ให้คนไทยเข้า
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซัม อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมสนทนาในรายการ CARE Talk x CARE ClubHouse ในครั้งที่ 21 ตอน “โควิดก็ยุ่งเหยิง เศรษฐกิจก็รุ่งริ่ง ถามจริง! เผด็จการเขาแก้ปัญหากันแบบนี้เหรอ?” โดยได้กล่าวถึงการบริหารจัดการปัญหาต่างๆ ของภาครัฐ
โทนี เล่าถึงบรรยากาศการเดินทางไปยุโรป ที่แม้จะมีการระบาดหนัก แต่มีการใช้ชีวิตตามปกติ ยึดมาตรการของรัฐ โดยว่า ตอนที่เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ เขาก็ขอผบ RT-PCR ที่เป็นลบและข้อมูลฉีดวัคซีน ไม่มีปัญหาก็รับได้ พอไปฝรั่งเศส ซึ่งเข้าไปได้เพราะเป็นกลุ่มเชนเกงด้วยกัน เขาไม่ตรวจอะไรเลย ปรากฏว่า จะกินข้าว ภัตตาคาร รานอาหารทุกอย่าง ตรวจการฉีดวัคซีน 2 เข็ม และ ผล PCR ที่ต้องอ่านคิวอาร์โค้ด ที่ต้องสแกนทุกที่ เลยให้คนมาทำที่สนามบินเลย ส่วนที่บนถนนเขาไม่ใส่หน้ากากกัน เขาใส่ในอาคาร ร้านอาหาร ก่อนกินข้าว ไปช้อปปิ้งตามห้างร้านต้องใส่ กติกาชัดเจน
“พอไปถึงเยอรมัน ก็ไม่ตรวจอะไร พอจะไปทานอาหาร ขอตรวจก่อน โอ๊คฉีดไฟเซอร์ที่ดูไบ ยังไม่ทิ้งช่วงครบ 14 วัน เขาบอกไม่ได้ เขาเคร่งมาก ไม่งั้นยังไม่ได้ครบ 14 วัน อย่างซิโนฟาร์ม เขาก็ไม่รับ ก่อนกลับก็ไปตรวจ RT-PCR ผลขึ้น ถึงได้กิน ไม่งั้นก็ไม่ได้กิน แมคโดนัลด์ก็ตรวจเช่นกัน”
โทนี กล่าวว่า ปัญหาของยุโรปที่ระบาด 2 อย่าง คือ 1.คนดื้อไม่ฉีดวัคซีนเยอะ ปล่อยข่าวบ้าง หรือ เชื่อโดยสุจริตใจ หรือฝ่ายการเมืองอีกฝ่ายโจมตี ก็มีอัตราการไม่ฉีดวัคซีนสูงถึง 40% เป็นตัวทำให้ระบาดเพิ่มขึ้น 2.คนฉีดไปนานแล้ว ไม่ได้ไปตรวจภูมิ ผลการศึกษาของ ม.นิวยอร์ก ว่าหลังจากฉีดแล้ว โมเดอร์นา 58% ไฟเซอร์ 40 กว่า และ จอห์นสัน 13% คือ เกิน 6 เดือน ต้องไปฉีดบูสเตอร์ เพื่อขยายภูมิ กลับมาดูประเทศไทยเรา ต้องให้ฉีดและมีบูสเตอร์โดส ผมก็ไม่แน่ใจว่าบางประเทศที่รัฐบาลจะไปสั่งล็อกดาวน์อีกรอบหนึ่ง ถูกหรือเปล่า วันนี้ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม ออสเตรีย ประท้วง เพราะคนทนไม่ไหว ล็อกดาวน์ไปนาน เพิ่งเปิดให้หายใจก็ล็อกดาวน์อีก สวีเดนนี้ ไม่เคยล็อกดาวน์เลย อัตราการติดเชื้อและตาย ก็ไม่ได้สูงสุด พอๆกันกับค่าเฉลี่ย ทั้งๆที่เขาไม่ล็อกดาวน์เลย
“อย่างยูเออี เป็นเมืองที่เปิดมากเลย เปิดมานานแล้ว เขาล็อกดาวน์มาก่อน ทำความสะอาดจัดระเบียบ วางกติกาชัดเจน ก็ทำความสะอาด สั่งตรวจ มาตรการชัด นั่งได้เท่าไหร่ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้ชัดเจน ลงเครื่องปุ๊ปเอาผลตรวจใน 72 ชั่วโมงมาโชว์ เข้าได้เลย ถ้ามาจากประเทศที่ยังสุ่มเสี่ยง ก็ให้ตรวจอีกทีที่สนามบิน แต่ไม่ต้องรอ เจอก็เรียกเข้ารพ. เป็นระบบเก็บข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ทันที ใช้คิวอาร์โค้ด เลยควบคุมได้ คนมาได้ไม่ต้องกักตัว เขาปล่อยก็จริง แต่ประเทศเขาติดเชื้อน้อย ตายวันละ 1-2 คน”
แนะกต. ไปสิงคโปร์แทนพม่า
“สิงคโปร์เปิดแล้ว เขาเคร่งครัดมากทุกอย่าง ล็อกดาวน์หลายรอบ ไม่ไหวแล้ว เปิดดีกว่า พอเปิดเสร็จปุ๊ป ยูเออีเข้าได้แล้ว แต่ไทยเข้าไปโดนกักตัว 14 วันอยู่ ยังงงว่าไทยทำไมไม่ได้ กต.ต้องไปเจรจา วันนี้ไทยลดเหลือ 5000 ตาย 40-50 วัน ทำไมยังไม่ให้เขา กต.ไม่ต้องไปพม่า ไปที่นี่แทน ไปสิงคโปร์ ถามเลยว่าทำไมไม่ให้ผมเข้า ติดอะไร ในเมื่อคนอื่นติดเชื้อสูสีกับผม หรือผู้นำผมยศพลเอก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ Vaccinated Travel Lanes ของสิงคโปร์นั้น เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว เดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยประเทศที่เดินทางเข้าได้ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี เนเธอแลนด์ เกาหลีใต้ สเปน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา
โดยในวันที่ 29 พฤศจิกายน อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย จะเริ่มเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว ขณะที่ วันที่ 6 ธันวาคม จะเพิ่ม ซาอุดิ อาระเบีย และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี
ชง เลิกกักตัวโรงแรมรอผลโควิด
และว่า วกกลับมาที่เมืองไทย ผมชื่นชม ที่คุมตัวเลขได้ดีขึ้น น่าภูมิใจ แต่เรื่องท่องเที่ยว ไม่ค่อยสำเร็จ คนยังมาน้อย 1.ทัวร์จีน ยังมาไม่ได้ คือ 14+7 ต้อง 14 วันที่โรงแรมรัฐ อีก 7 วันที่บ้าน ใครก็ไม่อยากมา 2.อย่างไทยแลนด์ พาส ตอนนี้คล่องมากขึ้นแล้ว จากต้องรอนาน 3.ไปกักโรงแรม 24 ชั่วโมง ไม่มีประโยชน์เลย สมมติผมอยากไปพักโรงแรมที่ไม่ได้เป็น SQ ต้องไปพัก 1 วันแล้วก็ย้ายโรงแรม จริงๆ ก็จัดตรวจที่สนามบินเลย ให้เข้าโรงแรมตามที่ต้องการ เป็นลบก็ให้มารพ. ทำไมต้องไปเสียเวลา เสียเงิน 2-3 ต่อ ใจถึงๆหน่อย ตรวจ PCR ที่สนามบินเลย อย่างที่เยอรมัน เขามีรับจ้าง 3-4 บริษัท ก็มารับจ้างตรวจ และส่งผลไป เพราะเขามีผลมาแล้วก่อน 72 ชั่วโมง โอกาสติดเชื้อต่ำมาก
“ที่ยุโรปค่อนข้างปกติ บางที่ มีตลาดคริสต์มาส ตอนนี้เข้าซีซั่น ก็มีไวน์ร้อนขาย ก็ไปซื้อมาเดินกิน ก็ปกติ โปรเฟสเซอร์ที่คิด แอสตร้าฯ เขายืนยันว่าเชื้อมีแต่อ่อนกำลัง ไม่แรงขึ้นกว่าเดิม กลายพันธุ์อย่างไรก็อ่อนกำลัง รัฐบาล มีหน้าที่หาวัคซีนมาเตรียมบูสเตอร์ ขอให้เป็น mRNA ไม่งั้นบูสต์ไม่ขึ้น ซิโนฟาร์ม ซิโนแวค อาจจะปลอดภัย แต่ภูมิมันไม่ขึ้น ขึ้นหลักร้อยหลักพัน พอ mRNA เป็นหมื่น น่าจะบูสต์ด้วยตรงนี้ น่าจะทำ ต้องเตรียมได้แล้วยาฆ่าเชื้อไวรัสประเภทนี้ อย่าง ฟาร์วิพิราเวียร์ แต่ไม่ได้ไฟเซอร์ ก็ไปขอหน่อย ไปขอเขาไม่ได้ก็ไปทางสถานทูต เพราะเราซื้อยาเขาน้อยเหลือเกิน ยาเขา เราก็ไม่เข้าใจ”
“ผมสงสัยการทำงานของกระทรวงสธ.มาก ทั้ง ขั้นตอนการซื้อวัคซีนและ ATK แม้กระทั่งเครื่องมืออย่าง ดีเอ็นเอ นัส ก็ไม่จบสักที ไม่เข้าใจ”
แนะเปิดร้านเหล้า อย่าเอาเศรษฐกิจประเทศไปแลก
โทนี กล่าวถึงกรณีปิดร้านผับบาร์ต่างๆว่า ถ้าไปออกกติกา ว่าวัคซีน 2 เข็มนะ PCR เป็นลบให้เข้าได้ ถ้าเข้าแล้วไปตรวจพบก็ปิดร้าน แล้วให้เขาเปิดดีกว่า ผมไปเยอรมันมา ผมยังไปชนเบียร์กับโอ๊คเลย ไม่มีปัญหา เข้าไปแล้วต้องตรวจก่อน ไม่ฉีดก็นอนบ้าน เขาไม่ให้เข้า อย่างน้อยๆ ไม่มีอะไร 100% แต่ถ้าเราจะไปไล่ปิด สิ่งที่จะเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 1% โดยแลกกับความเป็นอยู่คน หรือ เศรษฐกิจของประเทศ ไม่คุ้ม ไม่มีอะไรไม่เสี่ยง สงกรานต์ คนตายเทศกาล 500-600 คน มากกว่าโควิดในตอนนี้เสียอีก เราไม่สามารถป้องกันคนตายได้ 100% แต่เราก็ป้องกันให้ดีที่สุด มีวิธีการที่ป้องกันความเสี่ยง อย่าเอาเศรษฐกิจไปแลก เอาชีวิตคนที่ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ทำมาหากิน ไม่ใช่รักเขานะ บาปกรรม
“ผมว่าวันนี้ ถ้าใจรักประชาชน ต้องเป็นนักบริหารอย่าเป็นนักปกครอง การเป็นผู้นำต้องเป็นนักบริหาร ให้คนมาร่วมคิดร่วมทำ ขอความร่วมมือ ให้ความรู้ชัดเจน โดยเฉพาะประชาชน แค่นี้ เรียกนักบริหาร หากเป็นนักปกครอง ผิดกฎหมายก็จับ เราหาใครเป็นก็ได้”
รัฐบาลยังมีเวลา เร่งเตรียมเป็นเจ้าภาพ เอเปค
ในช่วงท้าย หลายคนได้สอบถามถึงกรณีที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน เอเปค โดยให้พูดถึงในฐานะผู้เคยจัดงานมาก่อน โทนี กล่าวว่า ก็ยากอยู่ ที่จะเอเปคไปเทียบกับปี 2003 ไม่ใช่เพราะผมเป็นนายกฯ แต่วันนั้นความร่วมมือของประชาชน ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ดีมาก ตอนนั้นผมประชุมหลายรอบ ให้ทุกคนมามีส่วนร่วมด้วยกัน ไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว และชวนเอกชน โอท็อป ที่เด่นดังมาช่วย อย่างถ้วยชามเบญจรงค์ สมุทรสงคราม ทอผ้าอะไร เอามาหมด พรีเซนต์ขายไทยทั้งแพกเกจ เรื่อง ครีเอทีฟ อีโคโนมี และการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง หรือความปลอดภัยต่างๆ มันร่วมมือดีมาก
“วันนี้ ถึงวันจัดเอเปค รัฐบาลมีเวลา แต่ต้องเข้มลงรายละเอียดตั้งแต่วันนี้ ผมทำงานล่วงหน้าเป็นปี ต้องให้ได้ สารัตถะ ออกจากการประชุมให้ได้ ไม่งั้นก็แค่สังคม ของผู้นำโลก ส่วนเรื่องพม่า ลาว เขมร ไม่ได้อยู่ในเอเปค เราลากทั้งอาเซียนไปหมดไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะ เอเชีย แปซิฟิก ก็รู้สึกจะไม่ร่วม การเข้าไปเป็นผู้สังเกตการณ์ เขาไม่ให้มีสักประเทศ ตอนนี้ก็ไม่รับสมาชิกใหม่ด้วย”
