กกต.แถลงภาพรวมหลังเปิดหีบเลือกตั้ง อบต. ไร้ปัญหา ปชช.แห่ใช้สิทธิคึกคัก

กกต.แถลงภาพรวมหลังเปิดหีบเลือกตั้ง อบต. ไร้ปัญหา ปชช.แห่ใช้สิทธิคึกคัก ชี้ลงคะแนนผู้สมัครเสียชีวิตถือเป็นบัตรเสีย พร้อมให้ความมั่นใจหน่วยเลือกตั้งไม่เป็นคลัสเตอร์โควิดแน่

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายกิตติพงษ์ บริบูรณ์ รองเลขาธิการ กกต. แถลงภาพรวมการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ว่าทุกหน่วยเลือกตั้งได้มีการเปิดให้มีการลงคะแนนพร้อมกันในเวลา 08.00 น. ภาพรวมโดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคใดๆ ที่จะนำไปสู่การงดการลงคะแนนแต่อย่างใด ทุกหน่วยเลือกตั้งยังคงดำเนินการจัดให้มีการลงคะแนนได้ตามปกติ สำหรับบรรยากาศการไปใช้สิทธิของประชาชนนั้นถือว่าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเลือกตั้ง อบต.ทั้ง 5,300 แห่ง มีจำนวนหน่วยเลือกตั้ง 62,972 หน่วย และมีจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27,617,988 คน

นายกิตติพงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการเสียชีวิตของผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น หากหน่วยนั้นมีผู้สมัครเลือกตั้งมากกว่า 1 คน การจัดให้มีการลงคะแนนยังคงดำเนินต่อไป แต่ว่าการทำเครื่องหมายในช่องของผู้สมัครที่เสียชีวิตนั้นจะถือว่าเป็นบัตรเสีย ส่วนเขตเลือกตั้งใดไม่มีผู้สมัครเลยอาจจะเสียชีวิต หรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งในกรณีเช่นนี้ภายหลังจากวันเลือกตั้งแล้วภายใน 7 วัน ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจะดำเนินการออกประกาศให้มีการเลือกตั้งเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง โดยมีกรอบระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน

นายกิตติพงษ์กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการแข่งขันกันดุเดือดจนกระทั่งก่อเหตุอาชญากรรมหลายพื้นที่นั้น กกต.ประจำจังหวัดได้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการ นอกจากนั้นยังมีผู้ตรวจการเลือกตั้งซึ่งคอยสอดส่องดูแลเรื่องการทุจริตเลือกตั้งหากมีข่าวหรือมีเบาะแสอะไรก็จะมีการประสานงาน เพื่อนำไปสู่การดำเนินการตามที่ กกต.ได้กำหนดไว้

Advertisement

เมื่อถามถึงปรากฏการณ์คนกลับบ้านเพื่อไปใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวนมากนั้น นายกิตติพงษ์กล่าวว่า การเลือกตั้ง อบต.เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่นในระดับพื้นที่ ที่ใกล้ชิดกับประชาชนในตำบล ในหมู่บ้าน ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการไปใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีผลกระทบโดยตรงกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เดินทางกลับต่างจังหวัดเพื่อไปใช้สิทธิ คงเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ อีกทั้งการเลือกตั้งครั้งนี้ห่างจากครั้งก่อนมา 8 ปี ทำให้เป็นแรงจูงใจจนเกิดปรากฏการณ์คนแห่กลับบ้านแห่เลือกตั้งกระทั่งรถติด จึงนับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี

นายกิตติพงษ์กล่าวถึงผู้ที่ไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเนื่องจากอาจจะมีภารกิจ อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้ง หรือเจ็บป่วยจนไปใช้สิทธิไม่ได้ สามารถรักษาสิทธิตนเองโดยการไปแจ้งเหตุของการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยระยะเวลาหลังวันเลือกตั้ง 7 วัน โดยวันสุดท้ายของการแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คือวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ส่วนช่องทางการแจ้งเหตุการไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคือ ไปแจ้งด้วยตนเองที่สำนักทะเบียนอำเภอที่ตัวเองมีชื่อในทะเบียนบ้าน หรือแจ้งผ่านไปรษณีย์ และช่องทางการแจ้งผ่านวิธีการอิเล็กทรอนิกส์

เมื่อถามว่า ประชาชนยังคงกังวลว่าจะเกิดคลัสเตอร์ใหม่จากการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง กกต.ได้มีการควบคุมอะไรเป็นพิเศษเพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ นายกิตติพงษ์กล่าวว่า ในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์โควิด-19 กกต.ถือเป็นนโยบายสำคัญ ตั้งแต่การเลือกตั้ง อบจ. จนถึงการเลือกตั้งเทศบาล และสำหรับการเลือกตั้ง อบต. ก็ได้มีการเพิ่มความเข้มข้นในการดำเนินการภายใต้มาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมากขึ้น และในการเข้าไปใช้สิทธิในหน่วยเลือกตั้งทุกจุดจะมีเจลแอลกอฮอล์ คอยทำความสะอาด และมีการเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะวัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้ร่วมกันในคูหา ซึ่งถือเป็นมาตรการที่กำหนดเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้มาใช้สิทธิ

Advertisement

เมื่อถามว่า มีรายงานเรื่องการทำผิดกฎหมายในคูหาเลือกตั้งหรือไม่ นายกิตติพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามา การดำเนินการต่างๆ ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image