‘กอ.รมน.’ ขานรับนโยบายรัฐ เร่งประสานทุกภาคส่วนแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ผลักดันเข้าสู่ระบบอย่างถูกกม.

“กอ.รมน.” ขานรับนโยบายรัฐ เร่งประสานทุกภาคส่วนร่วมแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว ผลักดันเข้าสู่ระบบอย่างถูก กม. พร้อมเตรียมช่วยประชาชนจากอุทกภัยในภาคใต้

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร โฆษก กอ.รมน.เปิดเผยว่า จากการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ประจำเดือนพฤศจิกายน 64 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีพล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสธ.ทบ./เลขาธิการ กอ.รมน.เป็นประธาน โดยหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน.ได้รายงานผลการปฏิบัติงานเดือนที่ผ่านมา พร้อมรับมอบนโยบายการปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐ

พล.อ.สิทธิชัย มากกุญชร โฆษกกอ.รมน.

โดย เลขาธิการ กอ.รมน.ได้เน้นย้ำถึงภารกิจสำคัญในการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยขอให้ กอ.รมน.ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค บูรณการความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครอง อย่างใกล้ชิด เข้มงวดการเฝ้าระวัง สกัดกั้น และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ตอนใน พร้อมขยายผลการกวาดล้างจับกุมให้ถึงขบวนการต้นตอ และหมั่นลงตรวจพื้นที่ชั้นในอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องปรามการกระทำผิดกฎหมาย

ประกอบกับในปัจจุบันประเทศมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้มีความต้องการแรงงานสูงถึงประมาณ 450,000 คน รัฐบาลจึงมีนโยบายการนำแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ลาว เมียนมา และกัมพูชามา ทำงานกับนายจ้างในประเทศตามบันทึกข้อตกลง MOU ซึ่งเป็นกระบวนการนำเข้าอย่างถูกต้องและสอดคล้องกับมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เดือน ธ.ค.64 นี้

โดยเลขาธิการ กอ.รมน.ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคเตรียมการสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเป็นการบริหารจัดการแรงงานได้อย่างถูกต้องและเป็นระบบ ตลอดจนเน้นย้ำการประสานการปฏิบัติกับตำรวจ ทหาร ด่านตรวจคนเข้าเมือง และส่วนอื่นๆ เข้มงวดมาตรการคัดกรองโควิด-19 พร้อมเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์โควิดสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลกระบุเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล

Advertisement

พร้อมกันนี้ เลขาธิการ กอ.รมน. ได้กำชับให้ กอ.รมร.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัด เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยให้พร้อมประสานทุกภาคส่วนเตรียมการแจ้งเตือนและการเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์

ทั้งนี้ เลขาธิการ กอ.รมน.ได้กล่าวขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทของหน่วยงานความมั่นคง ทหารและตำรวจ และหน่วยงานฝ่ายปกครอง ตลอดจนภาคส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการสนับสนุนรัฐบาลแก้ปัญหาทุกวิกฤตของประเทศที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากสถานการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวตลอดเวลา และพร้อมให้การเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image