“ปภ.” รายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 จังหวัด 24 อำเภอ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

“ปภ.” รายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน 7 จังหวัด 24 อำเภอ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อ 30 พ.ย.64  กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด โดยในห้วงวันที่ 23 – 30 พ.ย. 64 พื้นที่ภาคใต้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 3 จังหวัด (สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา) รวม 13 อำเภอ 37 ตำบล 97 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 596 ครัวเรือน ขณะที่สถานการณ์จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 29 พ.ย. 2564 ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 จังหวัด (อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม) รวม 11 อำเภอ 94 ตำบล 757 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,522 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งระบายน้ำและให้การช่วยเหลือประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย
ตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ในห้วงวันที่ 23 – 29 พ.ย. 64 ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง ทำให้เกิดน้ำท่วมฉบับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา รวม 33 อำเภอ 120 ตำบล 482 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,489 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 3 จังหวัด 13 อำเภอ 37 ตำบล 97 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 596 ครัวเรือน ดังนี้

1.สุราษฎร์ธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ และอำเภอเคียนซา รวม 5 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 94 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

Advertisement

2.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนาบอน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพิปูน อำเภอนบพิตำ อำเภอท่าศาลา อำเภอทุ่งสง และอำเภอชะอวด รวม 25 ตำบล 69 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 362 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

3.สงขลา น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองสงขลา และอำเภอหาดใหญ่ รวม 7 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 140 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

Advertisement

ขณะที่สถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ พายุไลออนร็อก พายุคมปาซุ และร่องมรสุมพาดผ่านภาคตะวันออกและภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 29 พ.ย. 2564 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม รวม 11 อำเภอ 94 ตำบล 757 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,522 ครัวเรือน โดยภาพรวมระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนี้

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1 จังหวัด รวม 2 อำเภอ 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน
1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 306 ครัวเรือน
1.อุบลราชธานี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ รวม 4 ตำบล 22 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 306 ครัวเรือน
ภาคกลาง 3 จังหวัด รวม 9 อำเภอ 90 ตำบล 735 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 33,216 ครัวเรือน

2.สุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า รวม 28 ตำบล 267 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 23,053 ครัวเรือน

3.พระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ และอำเภอเสนา รวม 16 ตำบล 133 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,735 ครัวเรือน

4.นครปฐม ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางเลน อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอกำแพงแสน และอำเภอดอนตูม รวม 46 ตำบล 335 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,428 ครัวเรือน

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมสรรพกำลังในการระบายน้ำออกจากพื้นที่และดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจ และประเมินความเสียหายเพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุ และขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image