‘โรม’ หวังสภาผ่านร่าง กม.ถอดอาวุธ คสช. ปลดโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งประเทศ ชี้ไม่แก้จะอยู่กับซากเดนต่อไป
เมื่อเวลา 09.06 น. วันที่ 1 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) แถลงว่า วันนี้เป็นวันแรกที่มีการพิจารณาร่างกฎหมายที่เสนอโดย ส.ส.อย่างจริงจัง และมีบางส่วนเป็นร่างที่เสนอโดยภาคประชาชน ก่อนหน้านี้การพิจารณาส่วนใหญ่จะเป็นกฎหมายที่ถูกเสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งรายละเอียดร่างที่เข้าชื่อเสนอโดย ส.ส. หลายเรื่องมีความสำคัญ เช่น ร่างข้อบังคับการประชุม ที่มีเนื้อหาบางส่วนเกี่ยวกับการทำประชามติ ที่จะเปิดให้ประชาชนสามารถริเริ่มเสนอเรื่องต่างๆ ที่สำคัญต่อสังคมได้ หรือประเด็นที่เกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมที่จะทำให้โอกาสการพิจารณาร่างกฎหมายของ ส.ส.มีมากขึ้น หรือการเสนอแก้ไขเรื่องการตีความที่จะทำให้สภาเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ใช่มีการเปลี่ยนแปลงผลโหวตในสภาในช่วงที่องค์ประชุมไม่เพียงพอ
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีร่างของประชาชนที่ยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. ที่มีกฎหมายหลายฉบับออกมาฉุดรั้งการเดินหน้าของประเทศไทย รวมถึงร่างกฎหมายของนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ที่เสนอในลักษณะเดียวกัน ซึ่งถ้าเราสามารถทำตรงนี้ได้สำเร็จ คิดว่านี่คือนิมิตหมายที่ดีของการเดินหน้าประเทศไทย ที่จะช่วยปลดโซ่ตรวนที่ฉุดรั้งประเทศมาอย่างยาวนาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสภาจะพิจารณากฎหมายเรื่องนี้โดยให้ความสำคัญเหมือนกับที่ให้ความสำคัญร่างกฎหมายของ ครม. หากวันนี้ทำสำเร็จจะเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงประเทศไทยได้หลายเรื่อง อยากฝากถึง ส.ส.ทุกคน หากร่างไหนมีความสำคัญจริงๆ ก็อยากให้ช่วยกันผ่านไปให้ได้
“เบื้องต้นเราได้รับแจ้งว่าร่างยกเลิกคำสั่ง คสช.จะเข้าวาระการพิจารณาวันนี้ แต่จากระเบียบวาระการประชุมเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นสัปดาห์หน้า สิ่งที่เราพยายามทำ คือ สื่อสารกับสังคมและเพื่อนสมาชิกทุกคนว่าร่างนี้มีความสำคัญ ต้องยอมรับว่ามีประกาศคำสั่ง คสช.จำนวนมากที่อยุติธรรมกับประชาชนและฉุดรั้งการเดินหน้าของประเทศ หากเราไม่ทำอะไรกับมัน ก็อย่าเรียกตัวเองว่า ส.ส.เลย เพราะเราเห็นว่ามีปัญหาอยู่ตรงหน้า ดังนั้น หน้าที่ของเราก็ต้องพยายามแก้ปัญหาออกไป มิเช่นนั้นเราก็ต้องอยู่กับซากเดนของ คสช.แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วประเทศจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างไร ขอฝากไปถึงเพื่อน ส.ส. รัฐบาล ซึ่งหลายคนได้รับผลกระทบจากคำสั่ง คสช.ไม่น้อย คุณยังจำความรู้สึกที่ได้รับความอยุติธรรมวันนั้นได้หรือไม่ หากจำได้จงใช้ความรู้สึกในวันนั้นกับการโหวตที่จะเกิดขึ้นต่อไป” นายรังสิมันต์กล่าว
