ก้าวไกลชี้ ‘บิ๊กตู่’ ยื้อเลือกผู้ว่าฯกทม. พิษศึกภายใน พปชร.-แย่งลงชิงเก้าอี้ ปชป.เชื่อ 2 ปัจจัย
หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม บ้านเมืองสงบเรียบร้อยก่อนนั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธาน ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแล กทม. กล่าวว่า การจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ได้หรือไม่ ถ้าพิจารณาจากปัจจัยเรื่องความสงบเรียบร้อย น่าจะดูจาก 2 เรื่องหลักๆ คือ 1.การชุมนุมทางการเมืองขนาดใหญ่ที่อาจนำไปสู่การใช้ความรุนแรงก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และ 2.การระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่อาจนำไปสู่การล็อกดาวน์ และเมื่อดูเหตุปัจจัย 2 เรื่องนี้แล้วเห็นว่ายังไม่มีการชุมนุมขนาดใหญ่ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. นอกจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่อาจส่งผลทำให้ไม่สามารถเลือกตั้งใน กทม.ได้
นายองอาจกล่าวว่า การจะเลือกตั้งท้องถิ่นระดับไหน เมื่อไหร่ กฎหมายให้เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีมติให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นเมื่อไหร่ก็ได้ ซึ่งขณะนี้การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ยังไม่ได้เลือกตั้งคือการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) รวมถึงการเลือกตั้งเมืองพัทยา ซึ่งเป็นการปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ซึ่งตนเชื่อว่าถ้าบ้านเมืองเดินหน้าไปตามปกติ ไม่มีปัญหาอะไรแทรกซ้อนเข้ามา ครม.คงมีมติให้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ส.ก. และเมืองพัทยาตามไทม์ไลน์ที่วางไว้อย่างแน่นอน
“ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เราก็เตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา ถ้า ครม.มีมติให้เลือกตั้งเมื่อไหร่ก็พร้อมจะเข้าสู่สนามการเลือกตั้งทันที เพื่อนำเสนอบุคลากรที่ดีมีคุณภาพ รวมทั้งนโยบายที่ตอบโจทย์การแก้ปัญหา และพัฒนากรุงเทพฯให้น่าอยู่น่าอาศัยมากกว่าเดิม” นายองอาจกล่าว
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการคัดสรรผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ว่าเรามีรายชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.แล้ว และทำงานอยู่ในทีมนโยบาย กทม.แล้วด้วย แต่เราคุยกันในทีมแคมเปญว่าเราจะเปิดตัวนโยบายก่อน โดยตอนนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำนโยบาย ซึ่งแล้วเสร็จไปกว่า 80-90% หลังจากนั้นถึงจะประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม บ้านเมืองสงบเรียบร้อยก่อน นายณัฐชากล่าวว่า “ไม่น่าใช่ เขารอให้ตัวเองมีแต้มต่อมากกว่า เพราะตอนนี้น่าจะกำลังเคลียร์คนภายใน เนื่องจากมีการแย่งชิงกันมาก ตั้งแต่สมัยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และดูแลทีม กทม. มาจนถึง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. และผู้สมัครหลายๆ คนก็เชื่อมโยงกับผู้สมัครพรรค พปชร. ซึ่งคิดว่าสนาม กทม.รอบนี้น่าจะเป็นเกมการตัดคะแนนกันมากกว่า ฉะนั้น ทางฝั่งพรรค พปชร.หรือทางฝั่งนายกฯ คิดว่าไม่ได้ดูสถานการณ์การเมืองหรือสถานการณ์โควิด-19 แต่ดูว่าตัวเองพร้อมมากน้อยแค่ไหน และเคลียร์ปัญหาภายในเรียบร้อยแล้วหรือยัง ถ้าเคลียร์สถานการณ์ภายในพร้อมแล้ว และดูแนวโน้มว่าตัวเองน่าจะมีชัย วันเวลานั้นนายกฯจะเคาะวันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.”
