จากคำชะโนด ถึงหน้าทำเนียบฯ คำถามตรง ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คล้อยหลังสถานการณ์ ‘ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง’ ที่อุดรธานีเพียงไม่กี่วัน สถานการณ์ส่งหน่วยควบคุมฝูงชน (คฝ.) เข้าสลายการชุมนุมเพื่อทวงคืนผืนทะเลของชาวจะนะก็ตามมา
ถามว่าจุดหมายของปฏิบัติการ ‘ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง’ จุดหมายของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ คืออะไร
ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สามารถตอบได้อย่างชัดถ้อยชัดคำว่าเพื่อสร้างผลงานการพัฒนาช่วยเหลือชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน
เป็นผลงานระหว่างที่รัฐบาลบริหารประเทศเพื่อให้ครบตามวาระก่อนจะถึงเดือนมีนาคม 2566 แต่คำถามจาก 2 สถานการณ์นี้ก็มากด้วยความแหลมคม
นั่นก็คือ ผลงานจากการบวงสรวงพญานาคที่คำชะโนดคือความสำเร็จ ผลงานจากนิคมอุตสาหกรรมจะนะคือความสำเร็จ
สอดรับกับความเรียกร้องต้องการของประชาชนจริงละหรือ
หากสอดรับไฉนจึงมีเสียง ‘หากพัฒนาไม่ได้ก็ให้เกษียณ’ หากสอดรับเหตุใดชาวจะนะจึงต้องออกมานอนประท้วงหน้าทำเนียบฯ
สถานการณ์ ‘ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง’ จบลงไปแล้วท่ามกลางความสงสัยเป็นอย่างมากว่า ประชาชนที่ไปยังอุดรธานีดำเนินไปด้วยความสมัครใจหรือว่าว่าจ้างกะเกณฑ์มาด้วยอามิส
กระนั้นสถานการณ์การสลายการชุมนุมชาวบ้านจะนะบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลกำลังกลายเป็นคำถามใหม่
เป็นคำถามในลักษณะเดียวกันกับที่ ‘กลุ่มอุดรไม่ทน’ ต้องเผชิญ เมื่อพยายามจะชูป้ายไม่เห็นด้วยกับการมาของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วถูกตำรวจสกัดขัดขวางอย่างรุนแรงแข็งกร้าว
ตรงกันข้ามกับชาวบ้านที่ถูกกะเกณฑ์เพื่อมาเปล่งเสียงร้องว่า ‘เรารักลุงตู่’ กลับได้รับความอบอุ่นตั้งแต่เปิดค่ายทหารให้อุ่นเครื่อง
การปฏิบัติแบบ’ สองมาตรฐาน’ นั้นเองคือจุดเสี่ยงของรัฐบาล
ไม่ว่าจะเป็นภาพอันออกมาในระหว่างยุทธการ ‘ช้างเหยียบนา พระยาเหยียบเมือง’ ที่อุดรธานี ไม่ว่าจะเป็นภาพอันออกมาระหว่างการเข้าสลายการชุมนุมบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล
ถามว่าเป็นผลงานและความสำเร็จของรัฐบาลแท้จริงแล้วหรือ
เวลาที่เหลืออีก 1 ปีเศษกว่าจะถึงเดือนมีนาคม 2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเผชิญกับสถานการณ์อย่างไรอีก
และสถานการณ์นั้นๆ จะเป็นผลงานหรือความล้มเหลวกันแน่