ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ วัดพลัง ซ่อม 2 จังหวัดใต้

สกู๊ปข่าวหน้า 1 : ประชาธิปัตย์-พลังประชารัฐ วัดพลัง ซ่อม 2 จังหวัดใต้

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ชี้ขาดให้ ส.ส. 5 คน สิ้นสภาพการเป็น ส.ส.

3 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ อีก 2 คน เป็น ส.ส.เขต ได้แก่ นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา เขต 6 พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรค ปชป.

จากกรณีถูกศาลอาญาสั่งคุมขังในคดีที่ขัดขวางการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 สมัยเป็นแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

ศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งเพิ่มเติมให้ตราพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งซ่อมในส่วนของ ส.ส.เขตแทนตำแหน่งที่ว่างลงภายใน 45 วัน ตามกรอบของกฎหมาย

Advertisement

โดยจากไทม์ไลน์การจัดการเลือกตั้งซ่อม 2 ส.ส.เขตที่ว่างลง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะส่งร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งซ่อมไปให้รัฐบาลและมีกำหนดนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบในวันที่ 14 ธันวาคมนี้ และภายหลังโปรดเกล้าฯร่างพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งซ่อมประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

กกต.จะเป็นผู้กำหนดวันรับสมัครเลือกตั้ง และวันเลือกตั้งที่ชัดเจนต่อไปตามกรอบเวลา 45 วัน คาดว่าวันที่เหมาะสมจัดเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 2 เขตคือ วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565

ทั้งนี้ หากย้อนดูผลการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2562 ภาพรวมในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่พรรค ปชป.ครองแชมป์มาโดยตลอด กลับต้องเสียพื้นที่ให้กับหลายพรรคคู่แข่ง เพราะจากพื้นที่รวมทั้งหมด 50 ที่นั่ง พรรค ปชป.รักษาเก้าอี้ ส.ส.ไว้ได้เพียง 22 ที่นั่ง

Advertisement

โดนทั้งคู่แข่งสำคัญอย่าง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เจาะพื้นที่ของพรรค ปชป.

ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งพรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ก็ชิงพื้นที่ ส.ส.ในภาคใต้ของพรรค ปชป.มาได้เช่นเดียวกัน

หากจะโฟกัสในเขตเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้ง 2 เขตคือ เขต 1 จ.ชุมพร พื้นที่เดิมของ ชุมพล จุลใส ประกอบด้วย อำเภอเมืองชุมพร (ยกเว้นตำบลวังใหม่ ตำบลบ้านนา ตำบลหาดพันไกร ตำบลบางลึก และตำบลถ้ำสิงห์) และอำเภอสวี (ยกเว้นตำบลเขาทะลุ และตำบลเขาค่าย)

ทั้งนี้ จ.ชุมพร 3 เขต พรรคประชาธิปัตย์ยึดพื้นที่เขต 1, 2 ส่วนพรรครวมพลังประชาชาติไทยตีไข่แตกที่เขต 3

โดยการเลือกเมื่อปี 2562 ชุมพล จุลใส นำพรรค ปชป.ชนะเลือกตั้ง “ทนายแดง”นายชวลิต อาจหาญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรค พปชร.ด้วยคะแนน 47,030 ต่อ 36,703 คะแนน ในพื้นที่ถือว่าแพ้-ชนะกันเพียง 1 หมื่นคะแนน ถึงว่ายังพอแก้มือสู้กันต่อได้

จากการคาดการณ์ศึกเลือกตั้งซ่อมเขต 1 จ.ชุมพร ในส่วนของพรรค ปชป. “ชุมพล” ได้เสนอชื่อ นายอิสระพงษ์ มากอำไพ เลขาฯนายก อบจ.ชุมพร ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานของภรรยานายชุมพล ลงรับเลือกตั้งเพื่อรักษาเก้าอี้ ส.ส.เขต 1 ให้กับพรรค ปชป.

ส่วนพรรคคู่แข่ง พรรค พปชร.เตรียมส่ง นายชวลิต อาจหาญ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ชุมพร ลงแก้มืออีกครั้ง นอกจากนี้ยังมี พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ หรือ “ผู้กำกับหนุ่ย” จากพรรคกล้า ร่วมลงชิงชัยในศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ด้วย

ขณะที่พื้นที่เขต 6 จ.สงขลา ครอบคลุมพื้นที่อำเภอคลองหอยโข่ง อำเภอหาดใหญ่ (เฉพาะตำบลบ้านพรุ และตำบลพะตง) และอำเภอสะเดา (ยกเว้นตำบลสำนักแต้ว และตำบลสำนักขาม) หากมองในภาพใหญ่พื้นที่ จ.สงขลา มีทั้งหมด 8 เขตเลือกตั้ง

พรรคพลังประชารัฐสามารถบุกยึดพื้นที่เขต 1, 2, 3, 4 ส่วนพรรคประชาธิปัตย์รักษาฐานที่มั่นได้ 3 เขต 5, 6, 8 ส่วนพรรคภูมิใจไทยตีไข่แตกพื้นที่เขต 7

การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 นายถาวร เสนเนียม จากพรรค ปชป. เอาชนะ นายสมปอง บริสุทธิ์ จากพรรค พปชร.มาด้วย 28,465 ต่อ 19,317 คะแนน ชนะกันเพียง 9,148 คะแนน

สำหรับการเลือกตั้งซ่อมเขต 6 สงขลาครั้งนี้ พรรค ปชป.เตรียมส่ง นางสุภาพร กำเนิดผล หรือ “น้ำหอม” รองนายก อบจ.สงขลา และภรรยาของนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา พรรค ปชป. จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แทนนายถาวร

ขณะที่พรรคคู่แข่งอย่างพรรค พปชร. ต้องลุ้นว่าจะส่ง สมปอง บริสุทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 6 พรรค พปชร.มาแก้มืออีกหรือไม่

ยิ่งหากย้อนดูศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือนมีนาคม 2564 แทน เทพไท เสนพงศ์ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นสภาพ ส.ส.เนื่องจากศาล จ.นครศรีธรรมราช มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557

พรรค พปชร.ประกาศส่งผู้สมัคร ส.ส.ชิงชัยกับพรรค ปชป.เจ้าของพื้นที่เดิม โดยไม่สนมารยาททางการเมือง ที่พรรค ปชป.ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลและเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม

แล้วระดมสรรพกำลังในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล ผู้สมัครของพรรค พปชร.จึงคว้าชัยเก้าอี้ ส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ไปครอง

คอการเมืองจึงจับตาในทิศทางไม่ต่างกันนัก ว่าศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ทั้งเขต 1 จ.ชุมพร และเขต 6 จ.สงขลา ในครั้งนี้ พรรค พปชร.จะใช้ยุทธศาสตร์เดิมส่งผู้สมัครชนกับพรรค ปชป.

แม้ผลแพ้-ชนะจะไม่ได้ส่งผลต่อเสียงโดยรวมของพรรคร่วมรัฐบาลมากนั้น แต่ในทางการเมืองโดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ถือว่าเป็นเรื่องที่มีผลสะเทือนสูง

พรรค พปชร.ซึ่งในการเลือกตั้งปี 2562 และเลือกตั้งซ่อม 2564 ก้าวขึ้นมายึดหัวหาดภาคใต้ไว้ได้บางส่วน ย่อมต้องการรุกคืบ ขยายฐานความนิยม วัดเรตติ้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ครองความนิยมภาคนี้มากกว่าภาคอื่น และหยั่งวัดกระแสของพรรคในพื้นที่ภาคใต้เพื่อนำมาปรับยุทธศาสตร์ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

ขณะที่พรรค ปชป.ที่กำลังเดินยุทธศาสตร์กลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ก็ต้องสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมอย่างเต็มที่ ทางหนึ่งนอกจากจะป้องกันไม่ให้พรรคคู่แข่งมาเจาะพื้นที่ภาคใต้ของตัวเองให้เสียไปมากกว่านี้

อีกทางหนึ่งยังเป็นบททดสอบถึงผลงานและกระแสของพรรค ปชป.ที่เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล เดินหน้าปล่อยสารพัดนโยบายออกมาซื้อใจพี่น้องชาวภาคใต้ ว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน

เป็นอีก “ศึกพรรคร่วม” ที่ไม่มีใครอยากแพ้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image