‘พีมูฟ’ ประกาศร่วมชุมนุมเครือข่ายจะนะ 13 ธ.ค.หน้าทำเนียบ จี้รัฐบาลแก้ปัญหา ออกมติ ครม.ภายใน 14 ธ.ค. ขออย่าใช้ความรุนแรงสลายชุมนุมอีก
จากกรณีที่ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น โดย นายรุ่งเรือง ระหมันยะ, นายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำนักปกป้องทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม จ.สตูล, น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนนักเคลื่อนไหวเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น หรือลูกสาวแห่งทะเลจะนะ ยังคงปักหลักอยู่ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และจะเดินทางไปปักหลักที่ประตู 1 หน้าทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.00 น.วันที่ 13 ธันวาคม 2564
ช่วงบ่ายวันนี้มีเครือข่ายร่วมสมทบราว 150 คน จากสมาพันธ์สมาคมประมงพื้นบ้าน SAVEนาบอน กพ.อปช.ภาคใต้ รักษ์โตนสะตอ พัทลุง และสมาคมเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเครือข่ายที่จะตามมา อาทิ สมาพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ เครือข่ายประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ภาคี SAVEบางกลอย
- หลายเครือข่ายสมทบ’จะนะรักษ์ถิ่น’ร่วม 150 คน พรุ่งนี้เคลื่อนขบวนไปปักหลักประตู1หน้าทำเนียบ
- แถลงการณ์เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ซัด’ขี้ฉ้อ’ทำEIA เรียกร้องให้รัฐบาลทำใหม่
ขณะที่ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ออกแถลงการณ์เข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับพี่น้องเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น 13 ธ.ค.นี้ เพื่อทวงคืนที่ดินและทรัพยากร ระบุว่า ดังปรากฏข้อมูลว่ามีนักการเมืองได้รวมหัวกับกลุ่มทุนแล้วกว้านซื้อที่ดิน ผลักดันให้ผืนดินการเกษตรต้องปรับเปลี่ยนเป็นที่ดินอุตสาหกรรม แก้ไขผังเมืองโดยการผลักดันเข้าสู่คณะรัฐมนตรี เพื่อให้สามารถดำเนินการโครงการเมกะโปรเจ็กต์นิคมอุตสาหกรรมจะนะได้
รวมถึงพฤติกรรมของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นของรัฐ ทุน กองทัพ และกลุ่มชนชั้นนำในประเทศนี้อย่างชัดเจนที่สุด
นอกจากนั้น หากประเมินจากท่าทีของรัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมถึงนักการเมืองบางคนที่ยังดันทุรังเดินหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ตลอดจนการสลายการชุมนุมและจับกุมดำเนินคดีพี่น้องเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นอย่างป่าเถื่อน ได้สะท้อนชัดเจนแล้วว่าที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย และฐานทรัพยากรทั้งหมดของประเทศนี้ได้ถูกผูกขาดศูนย์อำนาจไว้อย่างเบ็ดเสร็จ ไม่หลงเหลือที่ทางให้ประชาชนสามารถปกปักรักษาผืนดินของบรรพบุรุษ และดำรงวิถีชีวิตได้อย่างอิสระและปลอดภัยอีกแล้ว
พวกเราขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ในนามขบวนการภาคประชาชนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิชุมชนในที่ดิน ที่อยู่อาศัย และทรัพยากร เป็นอีกหนึ่งเครือข่ายที่ได้รับผลกระทบใกล้เคียงกัน หลายครั้งที่พวกเราเคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาทั้งในเชิงประเด็นและโครงสร้าง พวกเราก็ได้รับคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการและบันทึกข้อตกลง หรือ MOU มา
แต่จากท่าทีของประยุทธ์ที่กล่าวว่า ไม่ได้เห็นชอบ MOU ที่ทำร่วมกับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น พวกเราก็ไม่อาจไว้วางใจฝากความหวังและชีวิตของพี่น้องผู้เดือดร้อนไว้ในกำมือของรัฐบาลนี้อีกต่อไป
เมื่อพี่น้องเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นประกาศขอแลกชีวิตเพื่อปกป้องบ้านเกิด พีมูฟจึงขอประกาศต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่พี่น้องจะนะ โดยการย้ำเตือนให้ผู้มีอำนาจทั้งหลายจงปฏิบัติตามข้อเรียกร้องทั้งหมดของพี่น้องจะนะ ทั้งการตรวจสอบกระบวนการที่ผิดปกติของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ การจัดให้มีการศึกษาผลกระทบในเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA แบบมีส่วนร่วม การยุติการดำเนินการโครงการทั้งหมด รวมถึงยุติการดำเนินคดีพี่น้องเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น 37 คน โดยต้องออกเป็นมติคณะรัฐมนตรีภายในวันอังคารที่ 14 ธันวาคมนี้
นอกจากนั้น เราขอประกาศว่าในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ พวกเราพีมูฟจะนำมวลชนเข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับพี่น้องเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่ทำเนียบรัฐบาลแน่นอน
และพวกเราขอย้ำเตือน เรียกร้องจิตสำนึกของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าอย่าได้ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมพี่น้องอีก เพราะพวกเราพร้อมจะยกระดับการเคลื่อนไหวและระดมมวลชนเพิ่ม หากรัฐบาลยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องและกระทำความรุนแรงกับพี่น้องของเรา