‘เพื่อไทย’ งัด 4 ข้อเท็จจริงจำนำข้าว โต้ รบ.บิดเบือนข้อมูล

‘เพื่อไทย’ งัด 4 ข้อเท็จจริงจำนำข้าว โต้ รบ.บิดเบือนข้อมูล ย้อนโครงการประกันรายได้ชดเชยแค่ 1 ปี ผลาญงบกว่า 1.5 แสนล้าน อัด รบ.ประยุทธ์สต๊อกข้าวแล้วขายไม่ออก จะมาโทษ รบ.ที่ถูกรัฐประหารไป 7 ปีแล้วคงไม่ถูก

เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะเบียนพรรคและทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่รองโฆษกรัฐบาลออกมาแถลงข่าวโจมตีโครงการรับจำนำข้าวสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าการหยิบประเด็นนี้มาโจมตีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในเวลานี้ ทั้งๆ ที่รัฐบาลชุดนั้น หมดหน้าที่และยุติโครงการไปนานกว่า 7 ปีแล้ว พอจะเดาได้ว่าเพราะโครงการประกันรายได้ของชาวนาที่รัฐบาลนำมาใช้ ตามการผลักดันของพรรคร่วมรัฐบาลที่หาเสียงไว้ กำลังทำลายความมั่นคงทางการคลังจนสร้างความเดือดร้อนไปทั้งรัฐบาล เพราะไม่สามารถช่วยชาวนาให้มีรายได้มากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจขยายตัวได้ แตกต่างจากโครงการจำนำข้าวเปลือกที่มีรายงานของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานถึงความคุ้มค่าของโครงการ เป็นผลให้เศรษฐกิจขยายตัว เลยต้องปฏิบัติการ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” หรือว่าเป็นเพราะชาวนาและประชาชนคนทั่วไปได้เข้าใจถึงประโยชน์ของโครงการรับจำนำข้าวดีขึ้นแล้ว จนทำให้ความเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทยอยู่ในระดับที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้สังคมรับรู้ใน 4 ข้อเท็จจริง ได้แก่ 1.เรื่องตัวเลขขาดทุนทางบัญชีที่กล่าวอ้างนั้นเป็นการอ้างถึงยอดรวม 5 ฤดูกาลผลิต ตลอดอายุของรัฐบาลไม่ใช่ปีงบประมาณเดียวแบบโครงการประกันรายได้ ปี 2564/65 งวดที่ 1 ที่มียอดเงินชดเชยราคา และโครงการประกอบที่มียอดรวมสูงกว่า 1.5 แสนล้านบาท หากเปรียบเทียบกับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกโดยใช้จำนวนฤดูกาลเพาะปลูกที่เท่ากันจะเห็นชัดเจนว่าโครงการประกันราคาใช้เงินมากกว่าโดยไม่ได้อะไรเลย

นายจักรพงษ์กล่าวอีกว่า 2.การแถลงโจมตีเรื่องการขาดทุนทางบัญชีว่าเป็นผลมาจากการบริหารงานของรัฐบาลพรรค พท.นั้นเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะข้าวในโครงการรับจำนำกำลังรอการขายในปี 2557 พล.อ.ประยุทธ์ได้ทำการรัฐประหาร และรัฐบาล คสช.ใช้อำนาจสั่งให้มีการระบายข้าวโดยนำข้าวคุณภาพดีไปจัดเกรดเป็นข้าวคุณภาพต่ำและขายออกในราคาต่ำและมีข้อกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ทุจริต เป็นคดีความจำนวนมากในชั้นศาล โดยที่รัฐบาลตกเป็นจำเลย เพราะทำให้ขายข้าวสารได้ราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ทำให้ผลขาดทุนทางบัญชีสูงกว่าที่ควรเป็นและโยนความผิดและให้ร้ายป้ายสีรัฐบาลพรรค พท. เพื่อใช้เป็นข้ออ้างสนับสนุนการโจมตีของกลุ่ม กปปส.ที่หนุนให้เกิดการรัฐประหาร ส่วนโครงการประกันรายได้ของรัฐบาล และพรรคร่วมดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นโครงการที่ไม่มีรายได้เลยสักบาทเดียว หากนำมาแสดงผลขาดทุนทางบัญชีจะเห็นว่าโครงการประกันราคาขาดทุนตั้งแต่เริ่มต้น

Advertisement

3.ประเด็นเรื่องหนี้คงค้างของโครงการรับจำนำข้าวเปลือกที่อ้างว่ายังเหลือกว่า 2 แสนล้านบาทนั้น เป็นเรื่องปกติที่รัฐบาลหนึ่งๆ จะรับช่วงดูแลภาระหนี้โครงการชดเชยแก่เกษตรกรที่คงค้างมาจากรัฐบาลก่อน เมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีหนี้เงินชดเชยสินค้าเกษตรค้างอยู่มากกว่าแสนล้านบาท ซึ่งรวมถึงหนี้โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2552 และโครงการประกันรายได้ปี 2552-2554 ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เห็นรัฐบาลพรรค พท.กล่าวโทษรัฐบาลที่ผ่านมา ทั้งยังเร่งดูแลชำระคืนในปีงบประมาณ 2555 และ 2556 เป็นจำนวนเงินงบประมาณที่มากกว่าที่ใช้ในโครงการของรัฐบาลของตนเองเสียอีก ยอดรวม 3 ปีงบประมาณก็สูงเกือบแสนล้านบาท และ 4.เรื่องข้าวค้างสต๊อก 2 แสนตันนั้น เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ว่าจะมีปัญหาเก็บรักษาไม่ดีจนเสื่อมสภาพ หรือไม่ขายออกทั้งๆ ที่ควรขายออกไปก็เป็นความผิดของรัฐบาลเอง จะมาโทษรัฐบาลที่ถูกรัฐประหารไปเมื่อกว่า 7 ปีมาแล้วคงไม่ถูกต้อง

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image