‘ผู้สมัครนายก อบต.ครน ชุมพร’ ร้อง กมธ.พัฒนาการเมือง ค้านรับรองการ ลต. อบต. หลังพบทุจริตในพื้นที่

‘ผู้สมัครนายก อบต.ครน ชุมพร’ ร้อง กมธ.พัฒนาการเมืองค้านรับรองการ ลต.อบต. หลังพบทุจริตในพื้นที่ ด้าน ‘ณัฐชา’ หวั่นความไม่โปร่งใสกระทบ ลต.ตั้งซ่อม ส.ส.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่รัฐสภา นางทิวาพร จันทรอาภา ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ครน อ.สวี จ.ชุมพร ยื่นหนังสือถึงนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอคัดค้านการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบต.ครน และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) ครน จนกว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลในพื้นที่จริงแล้วเสร็จ เนื่องจากมีข้อสังเกตเรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง อบต.ที่ผ่านมา

โดยนางทิวาพรกล่าวว่า สืบเนื่องจากตลอดเวลาที่ผ่านมาก่อนมีการเลือกตั้งวันที่ 28 พฤศจิกายน ได้มีความพยายามจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลการเมืองใน จ.ชุมพร ได้วางแนวทางการใช้กลวิธีต่างๆ พยายามผลักดันให้คนของตนได้รับการเลือกตั้งเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน รวมถึงตำแหน่งอื่นๆ และมีการใช้กลไกดังกล่าวดำเนินงานในการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. แม้มีผู้ร้องเรียนผ่าน กกต.จ.ชุมพร แต่เรื่องก็เงียบ และภายหลังการเลือกตั้งนายก อบจ.และ ส.อบจ. กลุ่มผู้มีอิทธิพลการเมืองกลุ่มนี้มีการวางตัวผู้สมัครนายก อบต.และ ส.อบต.ในหลายพื้นที่ตำบล และใช้กลไกของรัฐในการหาเสียงสร้างคะแนนนิยม ซึ่งกรณีดังกล่าวได้มีผู้ร้องเรียนไปยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว แต่ อบจ.ชุมพร ก็ยังคงใช้วิธีเดียวกันนี้สนับสนุนและช่วยเหลือผู้สมัครของตนเอง ดังนั้น จึงขอคัดค้านการรับรองผลการเลือกตั้งนายก อบต.ครน และ ส.อบต.ครน เอาไว้ก่อนจนกว่ากระบวนการจะสอบสวนแล้วเสร็จ พร้อมทั้งขอให้เจ้าหน้าที่จาก กกต.ส่วนกลางลงพื้นที่เป็นการเร่งด่วนเพื่อสืบหาข้อเท็จจริง

ด้านนายณัฐชากล่าวว่า ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีข้อมูลหลักฐานการทุจริตการเลือกตั้งอย่างชัดเจน และมีการร้องเรียนไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ในระดับท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว แต่เรื่องยังไม่คืบหน้า เนื่องจากการบริหารจัดการระดับท้องถิ่นมีความทับซ้อนและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับว่าที่ผู้สมัครหมายเลขหนึ่ง ทำให้อาจจะไม่เป็นกลางทางการเมืองในการตัดสิน ทั้งนี้ กมธ.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม และจะส่งเรื่องไปยัง กกต.เพื่อให้ติดตามและส่งผลกลับมาอีกครั้ง แม้การเลือกตั้ง อบต.จะผ่านพ้นไป และ กกต.ออกมาแถลงข่าวว่าผ่านพ้นไปด้วยดี แต่ในสถานการณ์ของ อบต. 5,300 แห่ง ยังมีความวุ่นวายในพื้นที่

เราได้รับรายงานจากบุคคลที่ กมธ.ส่งไปสังเกตการเลือกตั้งใน จ.นครนายก พบว่ามี อบต.หนึ่ง ผู้สมัครหมายเลขหนึ่งได้ 284 คะแนน ผู้สมัครหมายเลขสองได้ 284 คะแนน วิธีการแก้ไขของ กกต.คือนำบัตรที่ประชาชนหย่อนผิดกล่องมานับใหม่ แล้วให้อีกหมายเลขหนึ่งชนะไปด้วยหนึ่งเสียง ซึ่งทำให้ประชาชนในพื้นที่ตำบลนั้นแบ่งเป็นสองส่วน และมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งถึงขั้นบุกไปทำร้ายกัน บางพื้นที่เราได้รับข้อมูลจากประชาชนว่าซื้อเสียงกันถึงหัวละ 5,000 บาท สิ่งที่ตนกังวลยิ่งกว่านั้นคือ พื้นที่ ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร จะต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ด้วย ฉะนั้น ความไม่โปร่งใสเช่นนี้จะเป็นกลไกและเครื่องมือที่จะเป็นบันไดขึ้นไปสู่การเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่ ทั้งนี้ หากท่านใดมีข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งสามารถนำส่งมาที่คณะ กมธ.ได้ โดยจะดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงตามกระบวนการต่อไป