“เครือข่ายปชช.จะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน-กสม. เดินหน้าโครงการต่อ ยันคนหนุนนิคมฯเป็นเสียงส่วนใหญ่ในพื้นที่

“เครือข่ายปชช.จะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น” ร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน-กสม. เดินหน้าโครงการต่อ ยันคนหนุนนิคมฯเป็นเสียงส่วนใหญ่ในพื้นที่ ขอให้รับฟังความคิดเห็นทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ธันวาคม ที่ศูนย์ราชการฯแจ้งวัฒนะ อาคารบี นางมณี อนันทบริพงค์ และนายสักริยา อะยามา พร้อมตัวแทนเครือข่ายประชาชนจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พร้อมคณะผู้แทน เดินทางมายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมทั้งเรื่องร้องเรียนต่อ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ผ่านนายชนินทร์ เกตุปราชญ์ รองเลขาธิการ กสม. กรณีขอให้เดินหน้าผลักดันโครงการเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา ตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมายโดยเร็ว

ทั้งนี้ นางมณี อนันทบริพงค์ กล่าวว่า เรามายื่นเพื่อให้ทางสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะพวกเราสนับสนุนให้มีการเดินหน้าโครงการฯ เพราะมันเป็นความเดือดร้อนของพี่น้องในพื้นที่ด้วย เราอยากเห็นการพัฒนาคนในพื้นที่ได้มีรายได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  เราไม่อยากให้โครงการนี้มันหลุด เพราะมันเป็นโอกาสจริงๆที่จะทำให้คนในพื้นที่ โดยเฉพาะใน 4 อำเภอ หรือจังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้มีงานทำ กินดีอยู่ดี และลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ด้วย ซึ่งพื้นที่ของเราทั้งไทยพุทธและมุสลิมก็รักกันดีไม่เคยทะเลาะกัน แต่ตอนนี้เหมือนกลับว่าเรื่องโครงการนี้จะโยงเรื่องศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งพวกเราคนในพื้นที่ก็จะไม่ยอมให้คนข้างนอกมาทำให้คนในพื้นที่ทะเลาะ และผิดใจกัน และมาเอาเรื่องนี้มาเป็นเครื่องมือเพื่อผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม  ฝากสื่อมวลชนอย่าฟังฝ่ายเดียว โดยเฉพาะฝ่ายของพวกเราที่สนับสนุนคือฝ่ายที่เสียงส่วนใหญ่ เพราะพวกเราทำเวทีมากว่า 30 เวที 30 กว่าพื้นที่ อยากให้ผู้ตรวจฯเสนอให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไป

ด้าน นายสักริยา อะยามา กล่าวว่า ที่มายื่นหนังสือวันนี้ พวกตนเป็นกลุ่มที่สนับสนุนให้เกิดโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กสม. รวมทั้งสื่อมวลชน รับฟังความคิดเห็นของกลุ่มพวกตนด้วย ไม่ใช่รับฟังความคิดเห็นของกลุ่มที่คัดค้านเพียงฝ่ายเดียว อย่างไรตามการที่คนนพื้นที่อำเภอจะนะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็น 2 กลุ่มนั้น ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะทุกคนก็เป็นญาติกัน อีกทั้งการทำโครงการทุกอย่างจะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นปกติ ดังนั้นพวกเราในนามกลุ่มเครือข่ายประชาชนจะนะอาสาเพื่อพัฒนาถิ่น จึงขอความเห็นใจให้รับฟังกลุ่มเราด้วย เพื่อให้เกิดการพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ดียิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมามีความลำบากยากแค้นจากการขาดงานขาดอาชีพ ทำให้ลูกหลานและคนในพื้นที่ต้องไปทำงานต่างจังหวัดจำนวนมาก ซึ่งความเดือดร้อนตรงนี้กำลังถูกบิดเบือนทำให้เกิดความเข้าใจผิดจากการสื่อสารของสื่อบางประเภทที่ไม่เข้าใจชีวิตและความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่อย่างแท้จริง ที่สำคัญยังมีผลประโยชน์ทางการเมือง ของนักการเมืองบางคนที่ต้องการเสียงสนับสนุนจากคนในพื้นที่ ทั้งนี้กลุ่มคนที่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวมีมากถึงร้อยละ 70-80 ทั้งคนพุทธและอิสลาม แต่กลับมีการบิดเบือนข้อมูลความจริงจากคนในพื้นที่ที่มีไม่ถึง 100 คนเท่านั้น

Advertisement

ขณะที่ นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังรับเรื่องร้องเรียนว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินจะรับเรื่องไว้ และจะแสวงหาข้อเท็จจริง พร้อมร่วมทำงานกับทุกฝ่ายหาข้อเท็จจริง ซึ่งทางสำนักงานผู้ตรวจฯยินดีรับฟังจากทุกฝ่ายและหาทางออกอย่างเหมาะสมที่สุด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image