| ผู้เขียน | เดินหน้าชน |
|---|
ผลแห่งคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 8 ธันวาคม ไม่เพียงส่งให้ 5 ส.ส.ที่เคยร่วมขบวน กปปส.ต้องสิ้นสมาชิกภาพ ส.ส. อันประกอบด้วย
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร.
อิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
ถาวร เสียนเนียม ส.ส.สงขลา เขต 6 ปชป.
ชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร เขต 1 ปชป.
ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับทั้ง 5 คน ถือว่าจบสิ้นแล้วสำหรับการเมืองในสภา
หากมีเรื่องราวต้องติดตาม คือการจัดวางบุคคลลงในตำแหน่งที่ว่าง
ลำพัง 3 ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ แต่ละพรรคเพียงแค่ขยับคนในบัญชีขึ้นมาทดแทน
เหลืออีก 2 ส.ส.ในระบบเขตเลือกตั้ง จำเป็นต้องจัดเลือกตั้งซ่อม
คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมกราคมปีหน้า
อันดับแรก ปชป.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ต้องส่งคนลงสู้ศึกแน่นอนอยู่แล้ว
ทว่าสำคัญยิ่งกว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีนัยอย่างยิ่งต่อ ปชป.เพื่อสร้างความมั่นใจ สร้างขวัญกำลังใจ
ท่ามกลางคนเก่าคนแก่ บุคคลระดับคีย์แมนทยอยออกจากพรรค อาทิ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กรณ์ จาติกวณิช อรรถวิชช์ สุวรรณภักดี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม วิฑูรย์ นามบุตร ล่าสุด นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ
นอกจากศึกแห่งศักดิ์ศรียังมีความหมายต่อการทวงแชมป์ ส.ส.พื้นที่ภาคใต้ในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึง
ย้อนกลับไปการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 ปชป.เคยกวาดไปถึง 50 ที่นั่ง จากทั้งหมด 53 ที่นั่ง ยึดครองร่วม
ร้อยเปอร์เซ็นต์
ตกมาเลือกตั้งปี 2562 พลาดท่าเสียที่นั่งในภาคใต้มากกว่าครึ่ง ได้ ส.ส.เขตเพียง 22 ที่นั่ง จากทั้งหมด 50 ที่นั่ง
ส่วนที่หายไปต้องแบ่งให้กับพลังประชารัฐ 13 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 8 ที่นั่ง ประชาชาติ 6 ที่นั่ง รวมพลังประชา
ชาติไทย 1 ที่นั่ง
ตามมาด้วย “แผลเป็น” จากเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช เมื่อ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ทดแทน
เทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.ปชป. ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
แม้จะไม่มีเอ็มโอยูข้อตกลงเป็นมั่นเหมาะ แต่กติกามารยาทพรรคร่วมรัฐบาลมักไม่ส่งตัวแทนลงแข่งกับเพื่อนเจ้าของพื้นที่
พลังประชารัฐในฐานะแกนนำพรรครัฐบาลเลือกส่งคนลงสมัครชิงชัย และชนะการเลือกตั้งเสียด้วย
ครั้งนั้น ปชป.ต้องกัดฟันกลืนเลือด
กับแนวรบรอบใหม่ พลังประชารัฐยังอุบไต๋ส่งคนชิงเก้าอี้หรือไม่ แต่ก็เชื่อกันว่าต้องฉวยจังหวะเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สงขลา เขต 6 และชุมพร เขต 1 วัดกระแสเช็ก
เรตติ้ง ปลุกความเชื่อมั่น สร้างขวัญกำลังใจเช่นกัน ปูทางสู่เป้าหมายยึดครองพื้นที่ภาคใต้ การันตีกลับมาเป็นรัฐบาลอีกรอบ
จับอาการลงพื้นที่ภาคใต้ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้า พปชร. ในช่วงเดือนพฤศจิกายน คงพอเห็นเค้าลางจะเลือกเดินทิศทางใด
-6 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วย วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พร้อมด้วย ส.ส.จ.สงขลา ร่วมเดินทางมายังเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จัดตั้งสาขาพรรคสาขาภาคใต้ พบปะสมาชิกพรรค
-15 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตรเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ติดตามความคืบหน้างานตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.กระบี่
-17 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร ร.อ.ธรรมนัส พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรค ลงพื้นที่ จ.ชุมพร
จากนี้ต้องจับปฏิกิริยาแชมป์เก่า-ผู้ท้าชิง และรอยร้าวใหม่ในพรรคร่วมรัฐบาล
สัญญา รัตนสร้อย
