ที่ประชุมแก้โควิด จชต. ยังห่วง การรับมือผ่อนคลายมาตรการพื้นที่ชายแดนใต้-เตรียมระบบ Test and Go ส่วน ศบค.ส่วนหน้ายุติบทบาท ไม่กระทบการทำงาน เหตุหน่วยงานบูรณาการเป็นระบบแล้ว
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม แหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบรัฐบาล กล่าวถึง การลงพื้นที่และการประชุมหารือของศบค.ส่วนหน้า ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้ติดเชื้อก็ลดลงเรื่อยๆ ขณะที่จำนวนผู้ฉีดวัคซีนก็เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะไม่เป็นไปตามเป้า แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น
ส่วน ศบค.ส่วนหน้าจะยุติบทบาทลงในวันนี้ (16 ธันวาคม) นั้น เเหล่งข่าวระบุว่า เนื่องจากส่วนราชการปกติที่รับผิดชอบสามารถดูแลได้ ไม่จำเป็นต้อง มีศบค.ส่วนหน้า เนื่องจากก่อนหน้านี้ศบค.ส่วนหน้าได้บูรณาการหน่วยงาน ประสานการปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่เป็นระบบเรียบร้อยแล้ว และสามารถที่จะดูแลสถานการณ์ต่อไปได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้แหล่งข่าวยังยอมรับว่า ในที่ประชุมประชุมบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ งานด้านความมั่นคงและการพัฒนา จชต. เมื่อวานนี้ (15 ธันวาคม) มีข้อกังวล 2 ประเด็น เนื่องจากศบค.ได้เห็นชอบให้ลดระดับพื้นที่สถานการณ์ของ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่สีส้ม หรือ พื้นที่ควบคุม เพราะฉะนั้นจะมีการผ่อนคลายสถานการณ์มากขึ้น จึงมีความกังวลถึงการเตรียม การรองรับในการผ่อนคลาย ทั้งการฉีดวัคซีนและการตรวจหาเชื้อด้วย ATK รวมไปถึงมาตรการ Covid Free Setting ในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเมื่อวานที่ประชุมจึงขอให้จังหวัดต่างๆ เตรียมความพร้อม ทั้งร้านอาหาร ตลาดสด ชุมชน รวมไปถึงห้างสรรพสินค้าและด่านชายแดน หรือแม้กระทั่งสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งไทย พุทธ และมุสลิม เพื่อให้สามารถก้าวข้ามปีใหม่ไปได้อย่างปลอดภัย
ขณะเดียวกันต้องมีการเตรียมการเปิดประเทศโดยเฉพาะระบบ Test and Go ซึ่งต้องมีการเตรียมการที่มากพอสมควร ซึ่งหลักสำคัญ คือ คนที่เดินทางเข้ามาต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดส รวมไปถึงการตรวจใบรับรอบการฉีดวัคซีน จะใช้เป็นเอกสาร หรือ ออนไลน์ เมื่อเข้ามาแล้วไม่กักตัว แต่ต้องมีการตรวจหาเชื้อในวันแรกที่เข้ามาว่ามีการเตรียมการไว้หรือยัง หากตรวจพบเชื้อเป็นบวกแล้วจะทำอย่างไร เมื่อนักท่องเที่ยวไปสถานที่ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวได้มีการเตรียมมาตราการ Covid Free Setting แล้วหรือยัง
