‘กมธ.กฎหมาย’ จ่อส่งหนังสือถึง ‘ประยุทธ์’-บุก ตร.ทวงคำตอบปมสลายม็อบจะนะ เตรียมลงพื้นที่จะนะ คาด ม.ค.ปีหน้า
เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 16 ธันวาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีการพิจารณากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมของชาวจะนะรักษ์ถิ่น บริเวณ หน้าทำเนียบ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยวันนี้ กมธ.ได้เชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และศูนย์อำนวยการบริหารชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มาหารือ แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะส่งมาแค่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทำสำนวนและสืบสวนเท่านั้น แต่ฝ่ายนโยบายว่าใครเป็นคนสั่งการให้จับกุมประชาชน และสั่งให้กระทำการเกินกว่าเหตุที่นำมาซึ่งภาพการทำร้ายผู้ชุมนุมไม่มา
นายรังสิมันต์กล่าวว่า กมธ.มีมติดังนี้ 1.จะส่งหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีและ ผบ.ตร.ว่าเราไม่ได้รับความร่วมมือ และจะมีการเดินทางไปยังสำนักงานแห่งชาติ (ตร.) โดยคาดว่าจะเดินทางไปในวันที่ 7 มกราคม 2565 เพราะที่ผ่านมาเราขอความร่วมมือ ผบ.ตร.มาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือกับสภาเลย
นายรังสิมันต์กล่าวต่อว่า 2.คดีความที่เกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจะนะที่มาร่วมชุมนุมทั้ง 37 คน ต้องยอมรับว่าการชุมนุมของพี่น้องชาวจะนะไม่ได้มีเจตนาทำผิดกฎหมาย แต่เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลรักษาสัญญา ซึ่งหลังจากนี้คงจะมีกระบวนการทางกฎหมายเพื่อหาทางออกต่อไป นอกจากนี้ กมธ.ยังมีแนวคิดว่าอยากจะลงพื้นที่ที่มีปัญหา เพื่อที่ กมธ.จะเป็นสะพานสร้างความเข้าใจและนำไปสู่การมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อทำให้การพัฒนาพื้นที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ตรงนั้นให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ จะมีการพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะลงพื้นที่เมื่อไหร่ แต่เบื้องต้นน่าจะเป็นเดือนมกราคม ซึ่งต้องดูสภาพความพร้อมและสถานการณ์โควิด-19 ก่อน
ด้านตัวแทนชาวจะนะกล่าวว่า การที่ตำรวจขอพื้นที่คืนโดยให้ย้ายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนน อ้างถึง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การที่ตำรวจขอให้เราย้ายไปนั้น เราไม่ได้ทำผิดกฎหมายใช่หรือไม่ เพราะการอยู่จุดเดิมกับอีกจุดหนึ่ง หากจะจับก็จับได้อยู่ดีและอ้างว่าจำเป็นต้องสลายการชุมนุม เพราะเกรงว่าจะมีกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเข้ามาสมทบ นี่คือข้ออ้างที่เกินข้อเท็จจริง
ตัวแทนชาวจะนะกล่าวอีกว่า คิดว่านี่คือความไม่ชอบทั้งหมด และตอนจับพวกเราไปขึ้นรถก็ไม่ได้แจ้งว่าไปที่ไหนและแจ้งข้อหาต่างๆ ทั้งนี้ สิ่งที่เราพอใจมากคือการที่ กมธ.จะเดินทางไปที่ ตร.เพื่อคุยเรื่องจะนะ หากตำรวจคิดว่าจะดำเนินคดีกับพี่น้องจะนะทั้ง 37 คนให้ได้ ตนคิดว่าก็ได้ พี่น้องจะนะจะได้ขึ้นมาที่นี่ทุกเดือนเพื่อรายงานตัวจนกว่าจะเสร็จสิ้นคดี แต่หากฝ่ายการเมืองคิดว่าเรื่องนี้พอแล้ว เพราะรัฐบาลก็มีมติชัดเจนแล้ว ทุกอย่างก็น่าจะจบและคดีก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร ซึ่งก็แล้วแต่ฝ่ายการเมืองจะพิจารณา แต่จากข้อเท็จจริงที่พูดคุยวันนี้ทำให้เห็นท่าทีของฝ่ายตำรวจชัดขึ้น และเห็นท่าทีของฝ่ายการเมืองที่พยายามจัดการเรื่องนี้ให้คลี่คลายมากขึ้น
