09.00 INDEX ประชาธิปัตย์ บนทาง สองแพร่ง ระหว่าง สายเก่า กับ สาย “ใหม่”
การประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมจะเป็นอีก “เส้นแบ่ง” อันเท่ากับเป็นจุดตัด หักเลี้ยวอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทาง การเมืองยุคใหม่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์
นั่นก็คือ การประชุมเพื่อเลือกสรรตำแหน่ง “รองหัวหน้าพรรค” และตำแหน่ง “รองเลขาธิการพรรค” คนใหม่
ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรคอาจไม่สำคัญเท่าใดนัก ตรงกันข้าม ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคมีความหมายเป็นอย่างสูงเพราะเป็นตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคคุมภาคใต้
ความจริงตำแหน่งนี้ “ว่าง” มานานแล้วหลังจากการยื่นใบลา ออกของ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ แม้จะแต่งตั้งให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการแต่ก็มิได้ดำรงอยู่อย่างถาวร
ความแหลมคมของตำแหน่งนี้อยู่ที่มีผู้เสนอตัวเข้ามา 2 คน นั่นก็คือ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ จากนครศรีธรรมราช นั่นก็คือ นายชายอิศม์ ขาวทอง จากสงขลา
รากฐานที่มีที่แตกต่างระหว่าง นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ กับ นายชายอิศม์ ขาวทอง นั่นแหละจะสะท้อนจุดเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน
หากมองจากสภาพความเป็นจริงที่ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ เป็น ส.ส.อย่างต่อเนื่องมาแล้ว 9 สมัย ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นระดับ รัฐมนตรีว่าการต้องถือว่าน่าจะลอยลำเข้ารับตำแหน่ง
เนื่องจาก นายชายอิศม์ ขาวทอง เสมอเป็นเพียง ส.ส.สมัยแรกและไม่เคยดำรงตำแหน่งสำคัญใดๆในทางการเมือง
ยิ่งกว่านั้น นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ไม่เพียงแต่จะได้รับการหนุนเสริมอย่างแข็งแกร่งจากพื้นที่นครศรีธรรมราช หากแต่ผู้หลักผู้ ใหญ่จำนวนมากก็พร้อมยืนอยู่ข้างหลัง
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าฐานพิงของ นายชายอิศม์ ขาวทอง ก็มี ความแข็งแกร่งปานๆกัน ไม่ว่าจะเป็นจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน
รวมถึงจาก นายนิพนธ์ บุญญามณี ซึ่งมากบารมีในสงขลา
มีความเด่นชัดอย่างยิ่งว่าการโรมรันระหว่าง นายชินวรณ์ บุณย เกียรติ กับ นายชายอิศม์ ขาวทอง เป็นการปะทะสัประยุทธ์ระหว่าง เส้นทางสาย “เก่า” กับเส้นทางสาย “ใหม่”
เป็นการยืนยันและชี้ขาดว่าพรรคจะเลือกเส้นทางสายใด
นั่นก็คือจะเลือกเส้นทางของ นายชวน หลีกภัย หรือว่าจะเลือก เส้นทางของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เพื่อปักธงพรรคในภาคใต้
และเส้นทางสายใดจะชี้ถึง “อนาคต” ของพรรคประชาธิปัตย์
