สภาล่มซ้ำซาก-2 ฝ่ายโต้กันนัว พท.ชี้สั่งสอน-จวก รบ.เป็ดง่อย

สรุปข่าวหน้า 1 สภาล่มซ้ำซาก-2 ฝ่ายโต้กันนัว พท.ชี้สั่งสอน-จวก รบ.เป็ดง่อย

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ขอมติเรื่องรายงานการพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ ที่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานกรรมาธิการ สมาชิกอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นนายศุภชัยกดออดเรียกสมาชิกเข้ามาเสียบบัตรแสดงตนเพื่อนับองค์ประชุม 2 นาที มี ส.ส.ทยอยเข้าห้องประชุมแต่ยังบางตา ทั้งนี้ นายศุภชัยกดออดอยู่หลายครั้ง ทำให้นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ลุกขึ้นกล่าวว่า ตอนเลือกตั้งแย่งกันเป็น ส.ส. แต่พอมาเป็น ส.ส.ก็ขี้เกียจไม่มาประชุม อ้างเหตุลาประชุม ถ้าลา 4 ครั้ง ก็ให้พ้นสมาชิกภาพไปเลย ขอตำหนิ ส.ส.พวกนี้ ประชาชนอย่าไปเลือกเข้ามากินเงินเดือนแต่ไม่ยอมทำหน้าที่

ด้านนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุม ส่วนองค์ประชุมเป็นความรับผิดชอบของ ส.ส.รัฐบาล ทำให้นายศุภชัยตอบกลับว่า ข้อบังคับการประชุมไม่ระบุว่าองค์ประชุมเป็นของฝ่ายใด ถือเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของ ส.ส.ทุกคน จากนั้นนายศุภชัยสั่งพักการประชุมเป็นเวลา 30 นาที

ต่อมากลับมาประชุมอีกครั้ง นายศุภชัยกดออดเรียกสมาชิก น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เสนอให้เช็กองค์ประชุมแบบขานชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) สนับสนุน และกล่าวว่า การรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ทำให้ น.ส.รังสิมาลุกขึ้นชี้แจงว่านายจุลพันธ์เห็นว่าองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของ ส.ส.รัฐบาลถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะการรักษาองค์ประชุมเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคน

จากนั้นสมาชิกต่างโต้เถียงกัน เมื่อให้สมาชิกเสียบบัตรแสดงตน ผ่านไป 11 นาที สมาชิกในห้องประชุมยังบางตา นายศุภชัยแจ้งผลการนับองค์ประชุม ปรากฏว่ามีเพียง 235 คน จากสมาชิกทั้งหมด 476 คน ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ถือว่าองค์ประชุมไม่ครบ นายศุภชัยจึงสั่งปิดการประชุมในเวลา 11.50 น.
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงปัญหาสภาล่มว่า หากมีการมองว่าเป็นเกมการเมือง ก็ไม่เถียง เพราะเราก็เล่นเกมการเมืองแบบโปร่งใสให้เห็นกันไม่ใช่แอบเล่น เพราะถ้าแอบเล่นเราคงอยู่เป็นองค์ประชุมเพื่อเข้าสู่วาระแล้ว แล้วไปออกจากองค์ประชุมตอนลงมติก็จะทำให้กฎหมายที่เสนอมาถูกตีตกไปด้วย ยืนยันฝ่ายค้านมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น และประกาศชัดมาก่อน โดยเสียงรัฐบาล 266 เสียง เสถียรภาพถือว่าง่อนแง่น สุ่มเสี่ยงผิดพลาด ส่วนฝ่ายค้านมี 209 เสียง หากฝ่ายค้านไม่เข้มข้นจะเกิดผลเสียทั้งระบบ และเพื่อประโยชน์โดยรวม หากฝ่ายค้านปล่อยไม่ขันนอตในสภา จะทำให้ประชาชนยากลำบากมากขึ้น

Advertisement

นพ.ชลน่านกล่าวว่า สภาล่ม 4 ครั้งในสมัยประชุมนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาในการพิสูจน์ความสามารถของรัฐบาล จะมาโทษฝ่ายค้านคงไม่ได้ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่เป็นฝ่ายรักษาองค์ประชุมในฐานะเสียงข้างมาก ดังนั้น รัฐบาลต้องพร้อม แม้หน้าที่มาประชุมเป็นหน้าที่ของทุกคน แต่ระบบรัฐสภาเป็นระบบเสียงข้างมาก จะเอาเสียงข้างน้อยมาอ้างไม่ได้

“ยืนยันว่าฝ่ายค้านจะให้บทเรียนรัฐบาลแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะปรับตัวเอง หรือจนกว่าจะยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน เพราะฝ่ายค้านไม่อยากเห็นสภาที่เป็นเป็ดง่อยทำอะไรไม่ได้เลย แม้แต่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ รัฐบาลยังไม่กล้าเอาเข้าสภา แล้วจะบริหารประเทศไปได้อย่างไร ตอนนี้ก็มีปัญหาเงินกู้ กยศ. ก็ยังไม่ออก เพราะรัฐบาลไม่มีเงิน จะเอาเงินกู้มาช่วยก็ทำไม่ได้เพราะกลัวสภาล่ม ยืนยันว่าฝ่ายค้านไม่กลั่นแกล้ง แต่เราต้องการประสิทธิภาพและความรับผิดชอบของฝ่ายสียงข้างมาก” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่านกล่าวถึงทางออกของเรื่องนี้ว่า ได้หารือเบื้องต้นกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว นายชวนเห็นว่าขอให้เว้นวันศุกร์ไว้ เพราะเป็นการพิจารณารายงานศึกษาที่สภาทำงานร่วมกัน และเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ดังนั้น เบื้องต้นในสัปดาห์ต่อไปฝ่ายค้านพร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ เฉพาะเรื่องนี้ เรื่องที่เป็นผลงานของสภา แต่การประชุมวันพุธ พฤหัสบดี ยังเข้มข้นเหมือนเดิม ส่วนวันศุกร์ ฝ่ายค้านยินดีให้ความร่วมมือไม่ตรวจสอบองค์ประชุม

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image