‘ชัชชาติ’ เผยไม่มีเพื่อไทยไม่มีตนในวันนี้ แต่อยู่อิสระทำงานเร็วกว่า

ชัชชาติ

‘ชัชชาติ’ เผยไม่มีเพื่อไทยไม่มีตนในวันนี้ แต่อยู่อิสระทำงานเร็วกว่า ไม่กังวล หากก้าวไกลส่งผู้สมัคร เชื่อตัวเลือกดีต้องมีเยอะๆ

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ชุมชนคลองพิทยาลงกรณ์ บางขุนเทียน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามอิสระ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ชายทะเลบางขุนเทียนว่า ที่เห็นก็จะเป็นปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งป่าชายเลนถูกกัดกินไปเยอะแล้ว ซึ่ง กทม.ก็มีการศึกษาไปแล้วตนคงต้องเอาผลการศึกษานี้มาดู ซึ่งอะไรที่เหมาะสมก็สามารถทำได้เลย อีกทั้งน้ำก็สูงขึ้นชาวบ้านอาศัยเวลาเรือแล่นผ่านอาจพบปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นเรื่องสาธารณสุขก็สำคัญ ซึ่งแต่ก่อนมีศูนย์สาธารณสุขอยู่แต่ปิดไปแล้วเพราะมีโรงพยาบาลมาแทน แต่ก็มีความต่างกันสาธารณสุขมันเป็นเหมือนเส้นเลือดฝอย คงต้องดูว่าชาวบ้านต้องการตรงนี้เพิ่มหรือไม่ ตนมาวันนี้ก็ทำให้ได้เห็นปัญหาหลายอย่าง และนี่ถือเป็นต้นแบบของการจัดการสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่ของเมืองในอนาคต

“จุดนี้เป็นจุดสำคัญ และเป็นสมบัติของกรุงเทพฯที่เราต้องดูแลไว้ เพราะเป็นแหล่งสันทนาการ แหล่งธุรกิจในอนาคต ดังนั้น ต้องรักษาป่าชายเลนไว้ จากพื้นที่ 2,000 ไร่ เหลือ 300 ไร่ ก็ถือว่าแย่แล้ว เข้าใจว่าทาง กทม.ก็มีโครงการปลูกป่าอยู่ แต่คงต้องคิดเรื่องแนวกั้นให้ดีก่อน” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวถึงกระแสตอบรับดีหลังเปิดตัวนายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเข้าร่วมงานว่า ทุกคนสำคัญหมด มีหลายคนต้องการมาร่วมทำงาน หนึ่งในนั้นคือนายพิจิตต ด้วยสิ่งที่ท่านเคยทำมันสอดคล้องกับเรา เชื่อว่าตนไม่สามารถทำงานคนเดียวได้เพราะด้วยความรู้อันจำกัด ตนอยากให้หยุดเรื่องความขัดแย้งและถึงเวลาที่เราต้องร่วมมือกันแล้ว กทม.สามารถทำให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ระดับโลกได้ขอให้เรามาช่วยกัน เดินหน้าไปด้วยกัน

Advertisement

เมื่อถามถึงอดีตที่เป็นพรรคการเมือง นายชัชชาติกล่าวว่า อดีตเป็นสิ่งที่ติดตัวเรา ปฏิเสธไม่ได้ว่าตนเคยอยู่พรรคเพื่อไทย (พท.) นั่นก็เป็นอดีต และปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าไม่มี พท.ก็ไม่มีตนในวันนี้ แต่ตนก็ออกจากเพื่อไทยมา 2 ปีกว่าแล้ว และเดินทางนี้ซึ่งอาจจะผิดถูกก็มีความสุข มองว่าทำงานได้เร็วไม่ต้องผ่านกระบวนการเยอะ เรามีอิสระในการคิดเราหาคนเก่งๆ มาร่วมทีมเราได้ แต่อนาคตก็ต้องแล้วแต่ประชาชน

ถามย้ำว่าเคยอยู่พรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคมีการสนับสนุนแบบไม่เปิดตัว นายชัชชาติกล่าวว่า ลงในนามอิสระก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว สนับสนุนเราเราก็เอา ถ้าเขาว่านโยบายเราดีเขาไว้ใจเราไม่ว่าจะเป็นพรรคไหน หรือมีพรรคอื่นมาสนับสนุนตนก็ไม่ได้รังเกียจเพราะเราเอาที่นโยบาย

Advertisement

เมื่อถามถึง ความรู้สึกหลังเปิดตัวเองมาตั้งแต่ปี 2562 นายชัชชาติกล่าวว่า ก็นานแล้ว แต่ในแง่หนึ่งทำให้เราได้ทำงานละเอียด จึงเห็นเรามีนโยบายที่ค่อยๆ ปล่อยมาเรื่อยๆ และมีแนวร่วมมาร่วมกับเรา 7,000 คนแล้ว ส่วนการเลือกตั้งก็คงต้องรอ แต่จะเป็นห่วงแค่ประชาชนที่เวลาเราลงพื้นที่ก็ได้เห็นว่าไม่มี ส.ก.ในพื้นที่นั่นมันขาดกระบอกเสียงให้ประชาชน เราลงพื้นที่เห็นแต่แคนดิเดต ส.ก.ของพรรคอื่นๆ ช่วยและลงพื้นที่ แต่ ส.ก.ที่แต่งตั้งมาเข้าใจว่าท่านคงมีภารกิจเยอะ ดังนั้นทำให้ประชาชนเสียผลประโยชน์ เพราะเขาขาดคนที่เข้าใจจิตใจเขาจริงๆ จึงอยากบอกว่าไม่ต้องห่วงตนแต่ให้ห่วงประชาชนที่ไม่ได้เลือกตั้ง

เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดตัวผู้สมัครจะกังวลว่าจะไปตัดคะแนนเราหรือไม่ นายชัชชาติกล่าวว่า ไม่กังวล ตนถือว่าการจะมีตัวเลือกดีๆ ต้องมีตัวเลือกเยอะๆ ตนมองว่าบทบาทของพรรคก้าวไกลในสภาเค้าเข้มแข็งดี ซึ่งถือเป็นหน้าใหม่มิติใหม่ของการเมือง

เมื่อถามถ้าไม่ชนะเลือกตั้งครั้งนี้ นายชัชชาติกล่าวว่า “ไม่เอาการเมืองแล้ว พอแค่แล้ว ถ้าคนไม่เลือกจะอยู่ต่อได้อย่างไร ไปเลี้ยงลูกดีกว่า เพราะเราไม่ได้มีทะเยอทะยานถึงการเมืองใหญ่ เพราะนั้นมันเหนือความสามารถเรา และไม่คิดกลับไปเพื่อไทย มาตรงนี้อิสระก็อิสระแล้ว ถ้ากลับไปกลับมาคนคงไม่ไว้ใจเราแล้ว ถ้าไม่ได้ตรงนี้คงดูลูก ทำธุรกิจ การเกษตรไม่แน่”

ทั้งนี้ นายชัชชาติกล่าวถึงความหวังในปี 2565 ว่า โควิดเป็นปีที่โหดร้าย แต่ในปีที่โหดร้ายตนมองเห็นความหวังการรวมพลังของชุมชนเล็กๆ ที่จะเป็นจุดที่จะนำพาเราไป ดังนั้น เราต้องร่วมมือกันและดูแลคนรอบข้างให้ดี ถสานการณ์ในปีหน้าตนเชื่อว่าจะดีขึ้นจากที่เรามีวัคซีนและบทเรียนเข้ามา แต่ก็ขออย่าให้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ขอให้โควิดผ่านไปแล้วเราเข้มแข็งขึ้น เป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านไปด้วยกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image