เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ได้เดินทางไปอ่านแถลงการณ์ โดยนางสาวชนกนันทน์ รวมทรัพย์ เป็นผู้อ่าน มีเนื้อหาโดยสรุปว่า การกักตัวนายโจชัว หว่องไม่ให้เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย เป็นการลิดรอนเสรีภาพ ในการเดินทางและการแสดงออก และคุกคามบุคคลผู้แสดงออกอย่างร้ายแรงและไร้เหตุผล จึงขอเรียกร้องให้ทางการไทยเปิดเผยสถานะของนายหว่องว่ายังปลอดภัยดีหรือไม่ ถูกกักตัวอยู่ที่ใด รวมถึงอนุญาตให้นายโจชัว หว่องติดต่อกับผู้ประสานงานในประเทศไทยและพรรค Demosistō ได้ อีกทั้ง ให้ปล่อยตัวภายในประเทศไทยในทันทีโดยปราศจากเงื่อนไข เนื่องจากไม่มีการยืนยันเป็นที่แน่ชัดว่าจะถูกส่งตัวกลับไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกงหรือไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ และจะถูกดำเนินการใดๆ จากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนหรือไม่ การเนรเทศนายโจชัว หว่อง ออกจากประเทศไทยจึงอาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของนายหว่องได้
นางสาวชลธิชา แจ้งเร็ว หรือ “ลูกเกด”กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ต้องตั้งคำถามว่า คสช.ขายความน่าเชื่อถือในเรื่องสิทธิเสรีภาพต่อหลักสากลหรือไม่ ซึ่งหลักสิทธิมนุษยชนลดลงไปอย่างมากในรัฐบาลนี้
ด้านนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ “จ่านิว” กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการชี้แจงใดๆของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ ยังไม่มีความชัดเจน ตนมองว่านี่คือความพยายามแทรกแซงกิจการภายในซึ่งรัฐเผด็จการทหารทำตามโดยไม่ยั้งคิด และตรวจสอบก่อน ขอให้รัฐไทย และจีน ออกมากล่าวข้อเท็จจริงถึงเหตุผลของการกระทำดังกล่าว และขอประณามการกระทำเหล่านี้
“ขอตอกย้ำว่าสิทธิในการเดินทาง การแสดงออก เป็นสิทธิอันชอบธรรม อีกประการหนึ่งคือ จีนแทบไม่สามารถใช้อำนาจกับฮ่องกงได้ แต่รัฐไทยกลับทำตาม ไทยกับแลกเปลี่ยนอะไรกับจีนโดยแลกกับสิทธิมนุษยชนหรือไม่ รัฐไทย กำลังแบกหน้าความเป็นทาสไปขายหน้าต่อชาวโลกกด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชน ต้องไม่ให้รัฐทำให้เราขายหน้าไปมากกว่านี้” นายสิรวิชญ์กล่าว
