09.00 INDEX อนาคต ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในมือ ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อาการร้าวที่ยิ่งร้าว “ลึก” มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ “ภายใน” รัฐบาล และระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ สามารถอ่านได้ผ่านกระแสอันปรากฏผ่านกระบวนการของการเลือกตั้ง
เริ่มจากผลสะเทือนอันเนื่องแต่การต้องหมดสภาพ ส.ส.ของ นายถาวร เสนเนียม นายชุมพล จุลใส แห่งพรรคประชาธิปัตย์
ตามมาด้วยผลสะเทือนจากกรณีของ นายสิระ เจนจาคะ
การตัดสินใจส่งคนลงสมัครในพื้นที่ เขต 6 สงขลา แจ่มชัดอยู่แล้ว การตัดสินใจส่งคนลงสมัครในพื้นที่ เขต 1 ชุมพร โดยการพลิกมติเพียงไม่ทันข้ามวันยิ่งแจ่มชัด
ไม่เพียงแจ่มชัดถึงการดับเครื่องชนของพรรคพลังประชารัฐต่อ พรรคประชาธิปัตย์ หากยังตีลูกแคนนอนไกลไปถึงอำนาจและอิทธิพลที่ทะมื่นอยู่ข้างหลังพรรครวมพลังประชาชาติไทย
พลันที่ นายสกลธี ภัททิยกุล เข้าทำเนียบรัฐบาลแล้วออกมายื่น
ใบลาออกจากสมาชิกภาพพรรคพลังประชารัฐ ยิ่งทำให้รอยร้าวที่ลึก อยู่แล้วยิ่งทะลวงลึกลงไปอีก
ที่คิดว่า “แยกกันเดิน” รวมกันตี แบบ”ลับ ลวง พราง”อาจมิใช่
การประกาศส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 9 กทม. หลักสี่ จตุจักร ของพรรคไทยภักดี มีเป้าหมายเพื่อเข้ายึดครองพื้นที่เดิมของ นายสิระ เจนจาคะ คือการประกาศศึก
ไม่เพียงแต่เท่ากับเป็นการปฏิเสธต่อบทบาทของ นายสิระ เจน จาคะ หากแต่ยังเป็นการท้าทายต่อพรรคพลังประชารัฐ
บทบาทของพรรคไทยภักดีซึ่งแนบแน่นอย่างยิ่งกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย จึงแทบไม่มีความแตกต่างไปจากบทบาทของ พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล
นั่นก็คือ ต้องการลบความหมายของ นายสิระ เจนจาคะ ต้อง การปฏิเสธการดำรงอยู่ของพรรคพลังประชารัฐ
การเมืองได้ยกระดับความขัดแย้งขึ้นมาอย่างแหลมคมยิ่ง
ปมมาจากความขัดแย้งพื้นฐาน”ภายใน”ของรัฐบาล นั่นก็คือ สถาน การณ์ก่อนวันที่ 4 กันยายน อันนำไปสู่การใช้อำนาจมาตรา 171 ใน การปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่ง
เกิดการท้าทายต่ออำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชัด
เป็นการท้าทายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยมี พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ เป็นเหมือนผู้ทำหน้าที่คุมเกม
ชะตากรรม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงล่อแหลมอย่างยิ่ง