ผู้เขียน | นิวรอน |
---|
⦁…แม้จะเป็นท้ายปี 2564 แล้ว แต่การเมืองก็ยังคึกคัก เหตุเนื่องจากหลายพื้นที่มีการเลือกตั้งซ่อม ทั้งเขต 6 สงขลา เขต 1 ชุมพร เขต 9 กทม. โดยมีกำหนดการหย่อนบัตรเดือนมกราคม 2565 ขณะเดียวกัน ผลแพ้ชนะแต่ละพื้นที่ถูกมองว่ามีนัยยะทางการเมืองต่อไป จึงทำให้พรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งทุ่มเท
⦁…การเลือกตั้งซ่อมที่สงขลาและชุมพรนั้นมีผู้ไปสมัครกันแล้ว ส่วนที่เขต 9 แม้จะยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง แต่ดูเหมือนแต่ละพรรคเปิดตัวผู้สมัครกันแล้ว ทั้งพรรคก้าวไกล เปิดตัว “เพชร-กรุณพล เทียนสุวรรณ” ที่ลงพื้นที่ขอเสียงชาวบ้านทันที ขณะที่เพื่อไทยที่จะส่ง สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.เขตนี้ลงไปล้างมือ ส่วนพรรคพลังประชารัฐ ที่มีข่าวว่านายสิระเสนอให้ นางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยาลงเลือกซ่อม โดยก่อนหน้านี้ นางสรัลรัศมิ์เดินหน้าหาเสียงอยู่ในเขตดอนเมือง เพราะคาดหวังจะลงชิงชัยในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อการเลือกตั้งส.ส.เกิดขึ้น ส่วนพรรคประชาธิปัตย์จะส่งใครลงหรือไม่ต้องรอฟัง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ปชป.เคยพูดถึงเรื่อง “มารยาท”
⦁…นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทำนายการเมืองปี 2565 ว่าเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่นมาก โดยมี 5 ปัจจัยที่ทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้น ประกอบด้วย 1.เสียงโหวตในสภา 2.วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโควิด และวิกฤตอื่นๆ ถาโถมรุนแรงมาก 3.รัฐธรรมนูญ ม.185 และ ม.264 เรื่องนายกรัฐมนตรีเป็นเกิน 8 ปีไม่ได้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องลุ้นเดือนสิงหาคมปีหน้า 4.คดีเหมืองทองอัคราที่จะตัดสินในวันที่ 31 มีนาคม 2565
⦁…“ฉายาสภา” ปีนี้ บรรดาผู้สื่อข่าวตั้งชื่อสภาว่า “สภาอับปาง” เกิดจากอาการองค์ประชุมไม่พอ ทำให้สภาล่มหลายครั้ง ส่วน “ส.ส.ดาวเด่น” มอบให้ “นพ.ชลน่าน” ขณะที่ วิรัช รัตนเศรษฐ รับฉายา “ดาวดับ” หลังต้องคำวินิจฉัยในคดีสนามฟุตซอล และต้องยุติการทำหน้าที่ ส.ส.
⦁…เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร แจ้งว่าติดเชื้อโควิด-19 และได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว เมื่อย้อนดูไทม์ไลน์พบว่า อธิบดีเอกนิติร่วมแถลงข่าวมอบของขวัญให้ประชาชน มี อาคม เติมพิทยไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดคลัง และบิ๊กๆ อีกหลายคนร่วมด้วย แต่เท่าที่ฟังมา นอกจากนายเอกนิติแล้ว ที่เหลือไม่ได้รับเชื้อ แต่ต้องกักตัว 14 วัน ตามเกณฑ์ ขอให้หายไวๆ
⦁…ข้อมูลเชื้อโอมิครอนยืนยันว่า “แพร่ระบาด” รวดเร็ว แต่เชื้อ “ลงปอด” ช้ากว่าเมื่อเทียบกับเชื้อเดลต้า ทำให้รัฐบาลเชื่อว่าระบบสาธารณสุขรับมือไหว แต่ทั้งนี้ทุกฝ่ายต้องร่วมมือ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ และปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด สิ่งสำคัญคือ การได้รับวัคซีนครบโดสช่วยทำให้อาการรุนแรงอยู่ห่างไกลหากไทยฉีดวัคซีนครบโดสตามเป้าหมาย น่าจะรับมือโควิดสายพันธุ์นี้ได้
⦁…สัปดาห์นี้หลายคนมีโปรแกรมเดินทางช่วงวันหยุดยาว นอกจากสถานการณ์โรคระบาดที่ต้องระมัดระวังแล้ว ขอให้ระวังเรื่องการเดินทางเหมือนทุกๆ ปี “เมาไม่ขับ” และ “ง่วงไม่ขับ” ยังเป็นคาถารักษาชีวิตในช่วงเทศกาลเช่นนี้ได้เป็นอย่างดี เนื่องในโอกาสส่งท้ายปี ขอให้ทุกคนโชคดีข้ามปี นับตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงปีหน้า