ครย.ม็อบส่งท้ายปี’64 ‘มีมี่’ โกนหัวรอบ 2 ย้ำเตือน เพื่อนยังถูกขัง ‘วีโว่’ เผากุ้งขายชุดละ 112
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 31 ธันวาคม ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร คณะราษฎรยกเลิก 112 (ครย.112) จัดกิจกรรม “อยู่เป็นเพื่อน ย้ำเตือนความยุติธรรม” ชุมนุมเคาต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับศักราชใหม่แห่งการเปลี่ยนแปลง ระหว่างเวลา 17.00-05.00 น.
ทั้งนี้ เพื่อทวงคืนสิทธิประกันตัวนักกิจกรรมทางการเมือง และแสดงออกให้เพื่อนนักสู้ที่อยู่ในเรือนจำได้รับรู้ว่ายังมีคนข้างนอกคอยให้กำลังใจ และเฝ้ารอการกลับมาต่อสู้ร่วมกันอยู่เสมอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโชคดี ร่มพฤกษ์ พร้อมด้วยสมาชิกกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร และผู้ชุมนุมนับร้อยคน ร่วมกันประดับภาพนักกิจกรรมที่อยู่ในเรือนจำ อาทิ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายจตุรภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง จากนั้นขับขานบทเพลงแห่งการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.
กระทั่งเวลา 17.15 น. “สายน้ำ” เยาวชนชายหนึ่งในผู้ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ขึ้นกล่าวสวัสดีปีใหม่แก่ผู้ชุมนุม พร้อมทั้งกล่าวสวัสดีปีใหม่เผื่อคนในเรือนจำ และขอให้ร่วมสู้ต่อไปในปีหน้า
จากนั้นเวลา 17.17 น. “ตะวัน” เยาวชนหญิง กล่าวขอบคุณที่ไม่ลืมเพื่อนเราในเรือนจำ และว่า ใครที่ค้างคืนได้ก็ขอให้ร่วมฉลองไปด้วยกัน เราจะไม่ลืมเพื่อนเรา มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เราสามารถเลือกสถานที่ไปท่องเที่ยวได้ แต่เพื่อนเราที่อยู่ในเรือนจำไม่สามารถ ก่อนกล่าวยืนยันว่าจะไม่ทอดทิ้ง
นอกจากนี้ ยังกล่าวยืนยันถึงข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน
“ตะวัน” กล่าวว่า ยังมีประชาชนที่เห็นว่ากฎหมายมาตรานี้ยังปิดปากเราอยู่ กฎหมาย ม.112 ที่ต้องพูด เพราะทำร้ายทุกคน จึงควรต้องยกเลิก เพียงแค่พูดต้องติดคุก 3-15 ปี ขอให้มานั่งคุยกันในฐานะคนเท่ากันว่าทำไมถึงต้องยกเลิกกฎหมายมาตรานี้
“ตะวัน” กล่าวชี้แจงโทษของ ม.112 ว่าโทษสูงเทียบเท่ากับการฆ่าคนตาย
“เพียงออกมาแสดงความคิดเห็น สมควรแล้วหรือที่ต้องติดคุก เมื่อเทียบกับการฆ่าคนตายโดยเจตนา สิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐกระทำกับประชาชนไม่สมควรเรียกว่าสังคมประชาธิปไตย” ตะวันกล่าว
จากนั้นยกตัวอย่างผู้ถูกดำเนินคดีด้วย ม.112 ว่ามีทั้งติดคุก เสียอนาคต เสียชีวิต และนี่คือสิ่งที่ควรรับรู้ว่าคือปัญหา พร้อมเชิญชวนร่วมลงลายมือชื่อเพื่อยกเลิกกฎหมายมาตรา 112
“เพื่อให้ปีต่อๆ ไปเพื่อนเราไม่ต้องฉลองปีใหม่ในเรือนจำ” ตะวันกล่าว โดยผู้ชุมนุมร่วมชู 3 นิ้ว ตะโกน “ปล่อยเพื่อนเรา” 3 ครั้ง และทิ้งท้ายด้วยการสวัสดีปีใหม่
เวลา 17.30 น. “มีมี่” เยาวชนหญิง อายุ 17 ปี สมาชิกเฟมินิสต์ปลดแอก ขึ้นกล่าวอวยพรปีใหม่ ว่าวันนี้เรามาเรือนจำ เพราะอยากให้ทุกคนระลึกถึงว่ายังมีคนที่ยังต้องอยู่ข้างใน เพียงเพราะต้องการความเป็นธรรมในสังคม ต้องการสิทธิ เสรีภาพ ใช้อะไรวัด
“เราไม่ได้มาปราศรัย แต่สานต่อเจตนารมณ์ ประยุทธ์ต้องลาออก มีมี่จะโกนหัวเป็นครั้งที่สองเพื่อย้ำเตือนว่า หลายคนต้องเจ็บปวด มีคนยังถูกขังคุก ไม่ใช่แค่คนข้างในที่เจ็บปวด เพราะคนข้างในก็เป็นที่รักของคนข้างนอก เขากลับต้องถูกพรากโอกาส พรากเวลา เพียงเพราะเขาต้องการความเป็นธรรม” มีมี่กล่าว และขอให้ทุกคนคิดตามว่า ช่วงเวลาที่เรากำลังเฉลิมฉลองยังมีคนที่อยู่ในเรือนจำ
“มีมี่” กล่าวอีกว่า ที่ตนมาตรงนี้เพราะเป็นห่วงคนข้างใน คนที่ร่วมต่อสู้กันมา ตั้งแต่โกนหัวครั้งแรกก็มีคนมาพูดว่า การกระทำของตนนั้นคิดสั้น ตนก็อยากจะบอกกับทุกคนไปว่า การที่เราสูญเสียผม สูญเสียเวลาของเราไป มันเทียบไม่ได้เลยกับคนที่อยู่ในคุก ที่ต้องสูญเสียอนาคต สูญเสียชีวิตไป
บรรยากาศเวลา 18.00 น. นายโชคดีและกลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎรขึ้นร้องเพลงสร้างบรรยากาศ ผู้ชุมนุมบางส่วนร่วมปรบมือ โยกย้ายอย่างครึกครื้น ขณะที่ทีมการ์ด We volunteer หรือวีโว่ ตั้งโต๊ะจำหน่ายกุ้งเผา พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ในราคาชุดละ 112 บาท โดยมีผู้ชุมนุมอุดหนุน มานั่งรับประทานตลอดแนวรั้วของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ด้าน กลุ่มทะลุฟ้าตั้งเต็นท์จำหน่ายเสื้อ น้ำพริก และกาแฟ เพื่อสมทบทุนขบวนการต่อสู้ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกระจายกำลังรอบบริเวณ
เวลา 18.24 น. นายเจษฎา ศรีปลั่ง หรือเจมส์ เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้สามารถหาห้องน้ำได้แล้ว แต่ไม่อยากประกาศให้สืบ (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ทราบ เกรงว่าจะถูกปิดกั้น จึงขอให้กระซิบถามกัน และว่า อีกไม่นานจะปิดถนนเพิ่มอีก 1 เลน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่ทำตามกติกา
เวลา 18.36 น. มีการแสดงจินตลีลา
ทั้งนี้ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ ก็ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วยเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.
