การดำรงอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นับแต่เดือนกันยายน 2564 น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง การดำรงอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยิ่งน่าทึ่ง
มาถึง ณ เดือนมกราคม 2565 ปฏิบัติการ ณ เดือนกันยายน 2564 ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์เหลือเชื่อในทางการเมือง
เหลือเชื่อเพราะไม่เพียงแต่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จะถูกมอง และประเมินว่ากำลังใช้บารมีในทางการเมืองเพื่อบ่อนเซาะและโค่นล้มนายกรัฐมนตรีภายใต้กติกาแห่งรัฐธรรมนูญ
ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทั้งๆ ที่ดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นพรรคแกนนำของรัฐบาล
จึงในเดือนกันยายน 2564 นายกรัฐมนตรีจึงอาศัยอำนาจมาตรา 171 ของรัฐธรรมนูญ ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกำหนดเป้าหมายจะกดดันและรุกไล่ให้พ้นไปจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
โดยอำนาจของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากความเป็นรัฐมนตรีได้ แต่ไม่สามารถปลดจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐได้
คนที่ออกมาปกป้อง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
จนเดือนมกราคม 2565 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ยังอยู่
แม้จะมีความพยายามเปิดปฏิบัติการ “6 รัฐมนตรี” จากการสมคบคิด ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 ก็ทำอะไร ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ได้
การปะทะระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ยังจะเป็น “ปม” ร้อนแรงของการเมืองในปี 2565
คำถามที่ยังไม่มีคำตอบก็คือ เหตุปัจจัยอะไรทำให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สามารถยืนหยัด โต้กระแสกดดันจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ได้อย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
เป็นเพราะการหนุนเสริมอย่างแน่วแน่และเด็ดเดี่ยวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เท่านั้นหรือ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมิอาจหัก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
