09.00 INDEX บทบาท “ทหาร” กับ เลือกตั้งซ่อม จากนครศรีธรรมราช ถึง “ชุมพร”
คำถามของพรรคประชาธิปัตย์กรณีทหารกว่า 100 คนชำแรกแทรกไปในเขตเลือกตั้ง “ซ่อม” ที่ 1 ชุมพร เป็นคำถามอันมี 2 เป้าหมายเป็น การจำเพาะ
1 ถาม พล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก 1 ถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
คล้ายกับเมื่อ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง “ในกองทัพภาคที่ 4 ผมสั่งเด็ดขาด ห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทางการเมือง”
ทุกอย่างก็จะจบ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะต้องตอบ ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ พล.อ.ณรงค์พันธุ์ จิตต์แก้วแท้ จะต้องให้คำอธิบาย
กระนั้นเมื่อเห็นการออกโรงของ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประสานเข้ากับการออกโรงของ นายเทพไท เสนพงศ์
ล้วนแต่เป็น “ขุนพล” จากพรรคประชาธิปัตย์ก็แจ่มชัด
แจ่มชัดว่านี่ย่อมเป็นประเด็นร้อนในทางการเมืองจนกว่าจะถึงวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคมอย่างแน่นอน
ไม่ว่าการปรากฏขึ้นของทหารกว่า 100 คนในพื้นที่เลือกตั้ง “ซ่อม” เขต 1 ชุมพรจะมีความเป็นมาอย่างไร แต่ใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับเรื่องแบบนี้เท่ากับไปแหย่รังแตนโดยแท้
เป็นรังแตนอันเป็นความจัดเจน เป็นตะกอนนอนก้นอยู่ทั้งภายในพรรคประชาธิปัตย์และสังคมไทย
สังคมไทยนับแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ซึ่ง เป็นภาพอย่างเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคของ จอมพล ป.พิบูลสง คราม ยุคของ จอมพลถนอม กิตติขจร
เป็นประสบการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์เคยต่อกรกับพรรคเสรีมนังศิลาปี 2500 ต่อกรกับพรรคสหประชาไทยปี 2512
จากทหารในชุมพรจึงนำไปสู่ทหารในนครศรีธรรมราช
พลันที่มีเสียงร้องจากพรรคประชาธิปัตย์ทุกสายตาไม่เพียงจ้องไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากแต่แสงแห่งสปอตไลต์ยังฉายจับไปยัง นายสันติ พร้อมพัฒน์ ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง
หรือว่านี่จะเป็นงาน “ลับ” ที่แม้แต่ผู้อำนวยการเลือกตั้งก็ไม่ได้รู้
หรือว่านี่เป็นกลยุทธ์ที่พรรคพลังประชารัฐเคยใช้และกำชัยมา อย่างต่อเนื่องในห้วงแห่งการเลือกตั้ง “ซ่อม” ครั้งแล้วครั้งเล่า
เพียงแต่คราวนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่นิ่งเช่นนครศรีธรรมราช