สธ.ขอเวลาประเมินสถานการณ์โควิด ก่อนเคาะบูสต์วัคซีนเข็ม 4
วันนี้ (3 มกราคม) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีความเป็นไปได้ในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เข็มที่ 4 ในกลุ่มประชาชนทั่วไปว่า นอกจากฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์แล้ว ขณะนี้มีแนวทางในการฉีดบูสเตอร์ โดส เข็มที่ 4 ให้ประชาชนทั่วไปตามแนวทาง คือ ฉีดกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากกว่า และจะมีการเจาะเลือดตรวจภูมิคุ้มกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อดูว่าฉีดวัคซีนแล้วให้ผลเป็นอย่างไร และดูสถานการณ์ของเชื้อโอมิครอนประกอบกัน
“เรื่องนี้จะประเมินหลังปีใหม่อีกครั้งว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไรก่อน โดยจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน เข้าใจว่าคนที่ฉีดเข็มที่ 3 ครบ 3 เดือนแล้ว น่าจะอยู่ที่ประมาณ 3 เดือนข้างหน้า ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และขณะนี้ จ.ภูเก็ต เป็นอีกพื้นที่ที่มีการฉีดเข็มที่ 3 ได้ค่อนข้างเร็ว ก็จะใช้ตรงนี้เป็นโมเดลด้วย” นพ.โอภาสกล่าว และว่า ทั้งนี้ ปัจจุบันทั่วโลกยังไม่มีใครได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 4 ระยะห่างจึงยังไม่สามารถบอกได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีภูมิคุ้มกันสูงเกินไป มีข้ออันตรายหรือไม่ เนื่องจากมีหลายคนตะบี้ตะบันฉีด นพ.โอภาสกล่าวว่า นั่นเป็นทฤษฎี แต่ฉีดเร็วไป ฉีดติดๆ กันภูมิไม่ขึ้น หรือขึ้นไม่ดี ยิ่งฉีดห่าง ภูมิจะขึ้นดี ดังนั้น ไม่ต้องไปฉีดติดๆ กัน
“การที่เราจะเลือกว่าต้องฉีดช่วงไหนนั้น ต้องดู 2 อย่างประกอบกัน คือ ช่วงขึ้นกับช่วงที่โรคกำลังระบาด หากโรคไม่ระบาด ก็สามารถเว้นระยะห่างในการฉีดได้เพื่อให้เกิดการกระตุ้นภูมิได้ดี และอยู่ได้นาน แต่หากโรคกําลังระบาดก็จำเป็นจะต้องเร่งฉีดวัคซีน ส่วนกรณีที่บอกว่า ฉีดวัคซีนเยอะแล้วจะเกิดอันตรายนั้น ที่ผ่านมายังไม่มี มีแต่พูดถึงทฤษฎี” นพ.โอภาสกล่าว
