พัลลภ เปิดใจถูกปลดจากเพื่อไทย เล่าสัมพันธ์บิ๊กตู่ เคยช่วยชีวิตไว้-เป็นคนเสนอได้เหรียญรามาฯ

พัลลภเปิดใจปมถูกปลดจากเพื่อไทย ปัดวิจารณ์การเมืองปัจจุบัน รับรู้จักบิ๊กตู่-ป้อม เคยช่วยชีวิตไว้-เป็นคนเสนอได้เหรียญรามาฯ

เมื่อวันที่ 3 มกราคม พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย แกนนำโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 7 (จปร.7) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวถูกปลดออกจากสมาชิกพรรคว่า เป็นความจริง ซึ่งข่าวที่ออกมาเนื่องจากมีผู้สื่อข่าวโทรศัพท์มาสวัสดีปีใหม่ และได้สอบถามเรื่องสุขภาพ รวมถึงเรื่องของการทำงานในพรรค ตนจึงได้บอกว่าถูกปลดออก โดยไม่ได้รับแจ้งเหตุผลว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่เชื่อว่าไม่ใช่เหตุผลเรื่องการปรับปรุงพรรค เพราะเป็นการปลดตนเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม ไม่มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน ทราบเมื่อตอนที่พรรคเพื่อไทยจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งตนก็จะไปร่วมงาน แต่ลูกน้องโทรศัพท์มาบอกว่าเขาลบชื่อนายออกแล้ว ทำให้ทราบมาตั้งแต่ตอนนั้น จึงได้โทรศัพท์สอบถามจาก นายชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้รับทราบว่า นายทักษิณ ชินวัตร ให้ปลด ซึ่งตนก็งงมาก เพราะไม่ได้ไปทำอะไรให้

เมื่อถามว่าหากเป็นแบบนี้แล้วจะต้องต่อสายตรงถึงนายทักษิณหรือไม่ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ตนไม่ต่อสายคุยกับเขาหรอกครับ เพราะผมเช็กแล้วพบว่าเขาเป็นคนสั่งปลด ไปพูดก็ไม่มีประโยชน์ เนื่องจากเขาทำไปแล้ว ผมไม่อยากวิจารณ์อะไรมาก เมื่อปลดแล้วคือเขาไม่อยากได้เราก็แค่นั้น

“ผิดหวังมาก เพราะตนก็อยู่มาก่อนตั้งพรรคไทยรักไทย แต่ก็มาปลดเฉยเลย” เมื่อถามว่าที่ผ่านมาทำงานทางลับให้พรรคเยอะหรือไม่ พล.อ.พัลลภกล่าวว่า เยอะมาก และหลายแห่ง ที่ไหนที่แก้ปัญหาไม่ได้ มีปัญหาตรงไหน ตนก็วิ่งทั่วประเทศแก้ไขปัญหาให้ แม้จะได้รับมอบหมายให้ดูภาคอีสานกับเหนือ

Advertisement

“พรรคนี้กลับเอาทหารออก ในปัจจุบันก็ยังต้องใช้สิ่งเหล่านี้ เมืองไทยทหารยังมีบทบาทสำคัญอยู่เพราะมีแทบทุกจังหวัดใกล้ชิดประชาชน แล้วทหารก็มีสิทธิในการเลือกตั้ง ยังเป็นฐานเสียงอย่างดี ส่วนงานใต้ดินก็ต้องอาจจะมี ส่วน จปร.7 ตอนนี้ก็เข้าสู่วัยชรากันหมดแล้ว ตนก็ยังเล่นกอล์ฟ ออกกำลังกาย แต่ก็ได้โทรศัพท์พูดคุยกันบ้าง อยู่บ้านกันหมดในช่วงโควิด-19 ในรุ่นก็ยังแข็งแรงกันอยู่ ยังมีชีวิตอีกมากในจำนวน 180 คน ตอนนี้เหลือ 150-160 คน ส่วนตนเองก็อายุ 17 ปี ครบร้อยแล้ว”

เมื่อถามอีกว่ามองสถานการณ์การเมืองปีนี้ว่าจะเป็นอย่างไร พล.อ.พัลลภกล่าวว่า ก็คงไม่วิจารณ์ เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นรุ่นน้องตน ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คงไปวิจารณ์เขาไม่ได้

“ไอ้ป้อมก็เล่นกอล์ฟกับผมแทบทุกวัน ส่วนไอ้ตู่ก็ช่วยชีวิตมันไว้ช่วงที่ผมยศพันตรีเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหาร ช่วงปราบปราม ผกค.ตู่เป็นผู้หมวดถูกล้อมในพื้นที่ช่องบก ผมสั่งให้นำทีมไปช่วย ตอนนั้นทีมมีแค่ 7 คน ต้องตีฝ่าไปเอาเขาออกมา ปรากฏว่าเอาเขาออกมาได้เสร็จ ก็มากระซิบตนว่า พี่ครับ ผมลืมทหารบาดเจ็บของผมอีกสองคนในบังเกอร์ ผมก็ต้องฝ่าเข้าไปแบกไอ้สองคนนี้ออกมา ครั้งนั้นผมยังได้เซ็นเสนอเหรียญรามาให้เขาด้วย”

Advertisement

“แต่ก็โกรธมากคือในช่วงที่ปฏิวัติฯ มาจับผมไปขังที่สระบุรีเป็นบ้านร้าง หนูวิ่งพล่าน แถมปฏิบัติเหมือนอย่างกับผมเป็นจอมโจร เอารถสิงห์ทะเลทรายติดปืนกลเฝ้าหน้าบ้านและหลังบ้าน ผมแพ้ฉี่หนูเกือบตายต้องโทรศัพท์ให้ลูกสาวที่เป็นหมอมารับ เพราะบอกว่าพ่อจะตายแล้ว พาตัวออกมาส่งโรงพยาบาลจนรอดตายได้ นี่คือไอ้ตู่ที่ทดแทนบุญคุณผมที่ช่วยชีวิตเขาไว้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image